เมื่อคุณไม่ต้องพึ่งพาบุคคลภายนอก เช่น ผู้ค้าส่งหรือร้านค้าปลีกในการขายสินค้าของคุณ คุณจะสามารถควบคุมประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นการเสริมพลังให้กับธุรกิจของคุณ
ในขณะเดียวกัน ตลาด DTC ก็เต็มไปด้วยการแข่งขัน และการที่สินค้าและแบรนด์มากมายต่างแย่งชิงความสนใจจากลูกค้าก็ทำให้บางครั้งยากที่จะโดดเด่นออกมา
แล้วแบรนด์ DTC ที่ประสบความสำเร็จใช้กลยุทธ์อะไรในการสร้างความแตกต่าง? แบรนด์ DTC ไหนที่คุณควรเรียนรู้จากพวกเขา? อ่านต่อเพื่อค้นหาคำตอบได้เลย
แบรนด์ DTC คืออะไร?
แบรนด์ DTC (Direct-to-Consumer) คือแบรนด์ที่ขายสินค้าโดยตรงให้กับลูกค้าปลายทาง แทนที่จะพึ่งพาตัวกลางเช่น ร้านค้าปลีกหรือผู้ค้าส่ง การขายแบบนี้ทำให้แบรนด์มีการควบคุมและรับผิดชอบมากขึ้นในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหาสินค้าและการผลิตไปจนถึงระดับสต็อก การจัดการคำสั่งซื้อ และประสบการณ์ของลูกค้า
DTC ช่วยให้การซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่แปลกใจเลยที่การขายผ่านอีคอมเมิร์ซแบบ DTC ในไทยมีแนวโน้มที่จะสูงถึง 161.22 พันล้านล้านบาท ภายในปี 2024
ประวัติโดยย่อของแบรนด์ DTC
โมเดลการขายแบบ DTC ในยุคปัจจุบันเกิดขึ้นได้ด้วยอินเทอร์เน็ต แต่จริงๆ แล้วการขายแบบ DTC เริ่มต้นก่อนยุคอินเทอร์เน็ตมานานแล้ว
หนึ่งในตัวอย่างแรกๆ ของการขายโดยตรงให้กับผู้บริโภคเกิดขึ้นในปี 1785 เมื่อพ่อค้าขายนมเริ่มส่งขวดนมถึงบ้านลูกค้า จากนั้นในปี 1886 Avon เริ่มขายสินค้าความงามผ่านทีมตัวแทนขายหญิง ซึ่งถือเป็นรูปแบบธุรกิจที่แปลกใหม่ในสมัยนั้น
แบรนด์ DTC อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Tupperware ที่เปิดตัวในปี 1946 โดยการขายสินค้าผ่านการนำเสนอถึงบ้านลูกค้า และในช่วงศตวรรษที่ 20 เราก็เห็นผู้ผลิตเสื้อผ้าเลิกพึ่งพาผู้ค้าส่งแล้วเปิดร้านค้าปลีกของตัวเอง
สุดท้าย เมื่ออินเทอร์เน็ตเริ่มเข้าถึงได้มากขึ้นในช่วงต้นของศตวรรษที่ 21 เราก็ได้เห็นการก่อตั้งแบรนด์ดิจิทัลที่มีชื่อเสียง เช่น ModCloth, Bonobos และ Warby Parker
ในทศวรรษที่ผ่านมา บางแบรนด์ DTC ที่ประสบความสำเร็จได้เปิดร้าน Pop-up และพื้นที่ขายของในรูปแบบค้าปลีก ขณะที่บางแบรนด์ เช่น Nike ที่เคยพึ่งพาคู่ค้าปลีกก็เริ่มสำรวจเทรนด์ DTC กันแล้ว
รวมลิสต์แบรนด์ DTC ชั้นนำ
1. Cuts Clothing

Cuts Clothing เป็นแบรนด์ DTC ที่โดดเด่นด้วยคอนเซปต์ work leisure สไตล์เสื้อผ้าทำงานที่ผสมผสานความเรียบเท่เข้ากับความสบายได้อย่างลงตัว แบรนด์นี้มุ่งสื่อสารกับกลุ่มมิลเลนเนียลที่มีความทะเยอทะยาน โดยระบุชัดว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการ “สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่ลงสนามแข่งขันและคว้าชัยในโลกธุรกิจ”
Steven Borrelli ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Cuts ยังเป็นโฮสต์พอดแคสต์ The Sport of Business ซึ่งเขาจะเชิญผู้ประกอบการ นักลงทุน และนักกีฬาระดับท็อปมาแลกเปลี่ยนมุมมอง แบรนด์เองก็มักโพสต์ภาพนักกีฬาอาชีพสวมใส่เสื้อผ้าของ Cuts อยู่บ่อยๆ สะท้อนภาพลักษณ์ความมุ่งมั่นและความสำเร็จอย่างชัดเจน
ดูเหมือน Cuts Clothing จะค้นพบสูตรสำเร็จจากการผสานสองสิ่งที่ดูขัดแย้งกัน การแต่งตัวให้พร้อมสำหรับทุกโอกาส และความสบายที่สวมใส่แล้วรู้สึกดีสุดๆ Nik Sharma ที่ปรึกษาและนักลงทุนสาย DTC จาก Sharma Brands เคยเขียนถึงแบรนด์นี้ไว้ในจดหมายข่าวล่าสุดว่า
“ตอนนี้ผมกำลังใส่กางเกงจ็อกเกอร์ของ Cuts อยู่ และมันเป็นหนึ่งในกางเกงที่สบายที่สุดที่ผมเคยมี มันให้ความรู้สึกเหมือนใส่ชุดนอนหรือชุดอยู่บ้าน แต่หน้าตาดีพอที่จะใส่ออกไปข้างนอก หรือแม้แต่ใส่ไปประชุมได้เลย”
2. Marc's Magic Rub

Marc's Magic Rub คือส่วนผสมเครื่องปรุงที่ใช้ได้กับอาหารหลากหลาย ตั้งแต่ซี่โครงและปีกไก่ ไปจนถึงแซลมอน หรือแม้แต่ป๊อปคอร์น ชื่อแบรนด์และประสบการณ์ออนไลน์ทุกจุดของร้านถูกออกแบบมาเพื่อรำลึกถึง Marc คุณพ่อของผู้ก่อตั้ง ผู้มีความหลงใหลในบาร์บีคิว และจากไปด้วยโรคมะเร็งในวัยเพียง 59 ปี
นี่คือวิธีที่ครอบครัวของ Marc ใช้เพื่อให้เกียรติและระลึกถึงเขา
สูตรเครื่องปรุงนี้มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำตาลทรายแดง พร้อมด้วยเครื่องเทศอย่างกระเทียม พริกคาเยน และมาราจอรัม ปัจจุบันแบรนด์มีเพียงสองสินค้า ได้แก่ สูตรดั้งเดิมและสูตรเผ็ด ซึ่งมีให้เลือกหลายขนาดและชุดแพ็ก
ประสบการณ์ทั้งหมดของแบรนด์ถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย ลื่นไหล และมุ่งเน้นไปที่ความรักในอาหารและความผูกพันของครอบครัวอย่างแท้จริง
3. Blume

Blume เป็นแบรนด์ DTC เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแบบลาเต้ที่ผสมผสานวัตถุดิบอย่างกระวาน ขมิ้น เห็ดเรอิชิ และดอกลาเวนเดอร์ สินค้าของแบรนด์มุ่งจับกลุ่มมิลเลนเนียลและเจนซีที่รักการดื่มกาแฟทุกวัน แต่ต้องการเพิ่มความเฮลท์ตี้ให้กับแก้วโปรด พร้อมหลีกเลี่ยงไซรัปและกลิ่นสังเคราะห์
ทุกจุดที่คุณสัมผัสกับ Blume นั้นชวนให้หลงรัก ตั้งแต่หน้าหมวดหมู่สินค้าที่บอกแบบตรงไปตรงมาว่าแต่ละตัวช่วยอะไร (ตามตัวอย่าง GIF ด้านบน) ภาพสินค้าก็ดูสดใสจนแทบจะทำให้คุณรู้สึกถึงรสชาติได้ และเหนือสิ่งอื่นใด คำโฆษณาของแบรนด์ก็เฉียบคมและขี้เล่นสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นประโยค “Here to help ya find yo’ blend!” ในคำอธิบายสินค้า หรือหัวข้อบล็อก “All bloggity blogs” ที่ยิ่งอ่านก็ยิ่งยิ้ม
4. Yellow Beauty

Yellow Beauty คือแบรนด์ DTC สกินแคร์ที่ใช้ขมิ้นเป็นหัวใจหลัก ก่อตั้งและดูแลโดยคู่รักชาวแคนาดา กระแสสินค้าดูแลผิวแนวธรรมชาติเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.6% ตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2030 และ Yellow Beauty ก็สามารถยืนเด่นในตลาดนี้ได้ด้วยการโฟกัสที่ส่วนผสมเพียงหนึ่งเดียวอย่างชัดเจน
โฟกัสที่ชัดเจนนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์โดดเด่นไม่เหมือนใคร และงานภาพของพวกเขาก็ช่วยเสริมให้ทุกอย่างตราตรึงยิ่งขึ้น ลองนึกถึงภาพถ่ายสีสันสดใส วิดีโอสินค้า บรรจุภัณฑ์แปลกตา แอนิเมชัน รวมไปถึงปุ่มและไอคอนในหน้าร้านออนไลน์ ทั้งหมดทำงานร่วมกันอย่างลงตัวจนยากจะลืม
Yellow Beauty ไม่ใช่แบรนด์สกินแคร์ที่จืดชืดหรือธรรมดาเลยแม้แต่น้อย แต่เต็มไปด้วยตัวตนและเสน่ห์ที่น่าค้นหาในทุกมิติ
5. Halfdays

Halfdays คือแบรนด์ DTC เสื้อผ้าสกีสำหรับผู้หญิงที่ผสานฟังก์ชัน ความพอดีตัว และสไตล์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว หน้าแรกของเว็บไซต์ประกาศชัดว่า “เรามาเพื่อเขย่าวงการนี้” เพราะชุดสกีทั่วไปมักเทอะทะและไม่ค่อยแฟชั่นสักเท่าไหร่และ Halfdays ก็ลุกขึ้นมาจัดการปัญหานั้นโดยเฉพาะ
แต่ Halfdays ไม่ได้มีดีแค่ชุดสกีสวยและใช้งานได้จริงเท่านั้น พวกเขายังสร้างชุมชน Slack สำหรับคนรักสกีที่อยากคุยเรื่องแผนการเล่นสกี นัดเจอเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน ไปจนถึงการได้สิทธิ์เข้าถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ก่อนใคร
โทนของแบรนด์ยังแอบขี้เล่นนิดๆ ด้วย อย่าง “ตัวสร้างข้ออ้างลางานครึ่งวัน” ที่วางอยู่กลางหน้าแรกก็เป็นตัวอย่างที่สนุกและโดดเด่นสุดๆ
6. Pulp Pantry

Pulp Pantry คือแบรนด์ DTC ชิปกรุบกรอบที่โดดเด่นกว่าสแน็กทั่วไปด้วยความเป็นมิตรต่อโลก พวกเขานำกากผลไม้และผักที่เหลือจากการคั้นน้ำมาแปลงร่างเป็นชิปแสนอร่อย
แนวคิดนี้ช่วยลดปริมาณอาหารที่ถูกทิ้ง (ในไทย มีอาหารถูกทิ้งมากถึงเกือบ 40%) พร้อมให้ลูกค้าเพิ่มใยอาหารในแต่ละวันได้แบบง่ายๆ
พันธกิจของ Pulp Pantry ถูกนำเสนอชัดเจนในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หน้ารายงานผลกระทบอย่าง Impact ไปจนถึง Instagram และ Twitter โทนสีอบอุ่นจากธรรมชาติและข้อความกระชับตรงประเด็นช่วยให้สารสำคัญโดดเด่นแบบไม่ถูกรบกวน
แบรนด์เริ่มต้นจากบูธเล็กๆ ในตลาดเกษตรกรที่ลอสแอนเจลิส ก่อนจะไปปรากฏตัวในรายการ Shark Tank ส่งผลให้ธุรกิจออนไลน์แบบ DTC เติบโตอย่างก้าวกระโดด และยังได้วางขายในร้านดังทั่วสหรัฐฯ อย่าง Whole Foods และ Fresh Thyme อีกด้วย.
7. Joggy

Joggy คือแบรนด์ DTC สินค้าเสริมพลังงานจากพืชที่ผสาน CBD แบบฟูลสเปกตรัมเข้าไว้ด้วยกัน สินค้าคุณภาพสูงของพวกเขาถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวในทุกวัน เสริมประสิทธิภาพเฉพาะบุคคล และช่วยในการฟื้นตัวหลังออกกำลังกาย
และในขณะที่ แบรนด์ CBD กำลังเพิ่มขึ้น สินค้าดูแลผิว CBD และน้ำมัน CBD คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดถึง 3.4 พันล้านดอลลาร์และ 1.1 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2026 ตามลำดับ Joggy กำลังสร้างพื้นที่ของตัวเองในตลาดด้วยสามวิธีที่แตกต่าง
แม้ตลาดแบรนด์ CBD จะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่า สกินแคร์ CBD และ น้ำมัน CBD จะมีมูลค่าตลาดถึง 3.4 ล้านล้านบาทและ 1.1 ล้านล้านบาทตามลำดับภายในปี 2026 แต่ Joggy ก็สามารถสร้างพื้นที่เฉพาะของตัวเองขึ้นมาได้ด้วยสามกลยุทธ์ที่โดดเด่น
กลยุทธ์แรกคืออัตลักษณ์ภาพลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร: สินค้าสีสันนีออนบนพื้นหลังสีดำที่สะดุดตาอย่างจัง กลยุทธ์ที่สองคือการโฟกัสเรื่องไลฟ์สไตล์สายแอ็กทีฟอย่างจริงจัง ตั้งแต่การใช้คำเปรียบเทียบเกี่ยวกับการวิ่งในคอนเทนต์เชิงความรู้ การตั้งชื่อสินค้าว่า Runner’s High ไปจนถึงการนำเสนอเนื้อหาในโซเชียลมีเดียที่เน้นกลุ่มนักวิ่งอย่างมาก (รวมถึงคอนเทนต์ที่ลูกค้าสร้างเอง)
กลยุทธ์ที่สามคือการสร้างชุมชน Web3 ที่สมาชิกสามารถสะสมเหรียญและของสะสมดิจิทัล เพื่อใช้เป็นเสียงกำหนดทิศทางสินค้า Joggy ในอนาคตได้อย่างแท้จริง
8. DEUX

DEUX คือแบรนด์ DTC คุกกี้โดว์วีแกนและปราศจากกลูเตน ที่ทำจากวัตถุดิบเรียบง่าย ไม่มีน้ำตาลขัดสีหรือสารกันเสีย แถมยังเสริมส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพอย่างสังกะสี วิตามินซี เอลเดอร์เบอร์รี และมาคาเข้าไปด้วย
สิ่งนี้ทำให้ DEUX อยู่ตรงจุดตัดที่น่าสนใจระหว่างขนมหวานและสินค้าเพื่อสุขภาพในเวลาเดียวกัน แบรนด์สามารถสร้างพื้นที่เฉพาะของตัวเองในตลาดด้วยสีสันจัดจ้าน ข้อความขี้เล่นมีไหวพริบ และท่าทีสุดแซ่บต่อวงการอาหารและของหวานที่บอกเลยว่าไม่เหมือนใคร
9. The Ridge

The Ridge คือแบรนด์ DTC กระเป๋าสตางค์บางเฉียบ ที่มีร้านออนไลน์แบบมินิมัลลิสต์แบ่งเพียงสองหมวดสินค้า กระเป๋าสตางค์และพวงกุญแจ รวมแล้วมีสินค้าเพียงไม่กี่สิบชิ้นเท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้ The Ridge แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ คือ Twitter ของพวกเขา เต็มไปด้วยความแสบ ความตลก และการแซวเจ้าของกระเป๋าหนัง กระเป๋าที่ใช้เวลโคร หรือกระเป๋าเทอะทะต่างๆ
The Ridge ใช้การตลาดดิจิทัลควบคู่กับอัตลักษณ์แบรนด์ที่กล้าและชัดเจนเพื่อขยายฐานลูกค้า พร้อมกับมุกมีมและการอ้างอิงวัฒนธรรมป๊อปที่ไม่มีขาดในโซเชียลมีเดีย Twitter ของพวกเขาไม่เพียงแค่ทำให้สินค้าเป็นตัวเลือกสุดยอดสำหรับคนที่มองหากระเป๋าเรียบง่ายและทนทาน แต่ยังสร้างความบันเทิงให้ผู้ติดตามหลายพันคนไปพร้อมกัน.
10. Three Ships

Three Ships คือแบรนด์ DTC สกินแคร์ธรรมชาติที่มีเป้าหมายชัดเจน: เป็นแบรนด์ความงามที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากที่สุดในตลาด สำหรับพวกเขา “ประสิทธิภาพ” หมายถึงใช้ส่วนผสมน้อยลงและได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ส่วน “ความโปร่งใส” คือการบอกลูกค้าอย่างตรงไปตรงมาว่าส่วนผสมแต่ละตัวในสกินแคร์ของพวกเขาคืออะไร มีลักษณะอย่างไร และมาจากแหล่งไหน
ลูกค้าของ Three Ships คือทูตแบรนด์ที่ทรงพลังที่สุด และเป็นแหล่งสำคัญในการหาลูกค้าใหม่ ชุมชนของแบรนด์ที่ชื่อว่า The Fleet ช่วยให้ลูกค้าสามารถมอบโค้ดส่วนลดให้เพื่อนและครอบครัวได้
“เราพบว่าลูกค้าที่เข้ามาผ่านการแนะนำจากสมาชิก The Fleet มีมูลค่าตลอดชีพสูงกว่าลูกค้าที่ได้มาจากช่องทางอื่นถึง 150% ซึ่งยิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ากลยุทธ์การตลาดที่ดีที่สุดคือการมีสินค้าที่ยอดเยี่ยมจนคนอยากพูดถึงและแนะนำต่อไปยังผู้อื่น” Laura Burget ผู้ร่วมก่อตั้ง Three Ships กล่าวกับนิตยสาร Happi
11. MUD\WTR

MUD\WTR คือแบรนด์ DTC เครื่องดื่มทางเลือกจากเห็ดที่แทนกาแฟ มีเครื่องดื่มหลักสองประเภท หรือที่แบรนด์เรียกว่า muds: สำหรับเช้าและสำหรับเย็น จุดเด่นคือให้พลังและสมาธิเหมือนกาแฟ แต่เสริมภูมิคุ้มกันและปราศจากอาการใจสั่น
พันธกิจของแบรนด์คือช่วยลูกค้าเลิกพึ่งพาคาเฟอีน พวกเขาสร้างความแตกต่างด้วยการสอดแทรกเป้าหมายนี้ลงในหน้าสินค้า คำถามที่พบบ่อย บล็อก และทรัพยากรต่างๆ เช่น โปรแกรมดีท็อกซ์กาแฟ MUD\WTR ยังบริจาคส่วนหนึ่งของรายได้เพื่อสนับสนุนงานวิจัยเรื่องจิตประสาท และกล้าแสดงจุดยืนในประเด็นที่มักถูกถกเถียงอย่างเปิดเผย.
12. Feastables

Feastables คือแบรนด์ DTC ขนมจาก MrBeast ยูทูบเบอร์ระดับตำนานที่มีผู้ติดตามทะลุ 100 ล้านคน และตอนนี้กำลังชวนให้คุณมาลองของอร่อยแบบไม่เหมือนใคร
สิ่งแรกที่ทำให้ Feastables โดดเด่นกว่าแบรนด์อื่น คือการนำเสนอที่ดังสะดุดตาแบบไม่เกรงใจใคร ทั้งโทนสีสุดจัดจ้าน คำโปรยแสนขี้เล่น อย่างประโยค “คุณกินอัลมอนด์หมดแล้ว” เวลาแจ้งว่าสินค้าขาดสต็อก ไปจนถึงแอนิเมชันและไฮไลต์ต่างๆ ที่ทำให้หน้าแรกทั้งสนุกและชวนอยากลอง
สิ่งที่สองคือคอนเซ็ปต์เรียบง่ายแต่น่าสนใจ: ช็อกโกแลตบาร์ที่มีแค่ 5 ส่วนผสม และเป็นส่วนผสมที่อ่านออกเสียงได้จริง แบบไม่ต้องเดา!
และแน่นอน ปัจจัยที่สามคือพลังของ MrBeast ที่สามารถดึงผู้ชมหลักล้านให้เข้ามาหาทุกอย่างที่เขาทำได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่หรือคอนเทนต์สุดอลังการ เช่นตอนที่เขาสร้างโรงงานช็อกโกแลตแบบ Willy Wonka พร้อมจัดแข่งสุดมันส์และพูดถึงช็อกโกแลตบาร์รุ่นล่าสุดของ Feastables วิดีโอนั้นมียอดชมพุ่งเกิน 90 ล้านครั้งภายในเวลาเพียงสองเดือนเท่านั้น!
13. Blueland

Blueland คือแบรนด์ DTC สินค้ารักษ์โลกสำหรับบ้านและการดูแลร่างกาย ที่มาพร้อมแนวคิดโดนใจ ซื้อขวดหรือภาชนะใส่สินค้าแค่ครั้งเดียว จากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้รีฟิลแบบไร้พลาสติกได้เรื่อยๆ ทั้งประหยัดและดีต่อโลก
ตัวอย่างเช่น รีฟิลน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ของ Blueland มาในรูปแบบเม็ดแท็บเล็ต เพียงละลายน้ำก็ได้คลีนเนอร์ปริมาณเต็มขวด 24 ออนซ์ ใช้ง่ายเหมือนเดิม แต่ลดขยะพลาสติกไปมหาศาล แนวคิดเดียวกันนี้ยังใช้กับโฟมล้างหน้า เจลอาบน้ำ รวมถึงเม็ดซักผ้าและเม็ดล้างจานที่ไม่ต้องมีซองห่อให้สิ้นเปลืองอีกต่อไป
ความตั้งใจของ Blueland ในการช่วยให้โลกสะอาดขึ้นถูกสอดแทรกอยู่ในทุกสินค้า แต่แบรนด์ยังไม่หยุดแค่นั้น ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 Blueland Blueland เปิดบริการบนโซเชียลที่ให้ใครก็ได้ทวีตขอคำแนะนำเรื่องการรีไซเคิลสินค้าความงาม เพียงระบุชื่อแบรนด์ (แบรนด์ไหนก็ได้!) และพื้นที่ที่คุณอยู่ จากนั้น Blueland จะตอบกลับพร้อมขั้นตอนการจัดการขยะอย่างถูกต้อง ช่วยให้ทุกคนรักษ์โลกได้ง่ายกว่าเดิมอีกขั้น
14. G FUEL

G FUEL คือแบรนด์ DTC เครื่องดื่มให้พลังงานที่สามารถสร้างตัวตนเด่นชัดในโลกเกมและอีสปอร์ต ด้วยเป้าหมายชัดเจน: มอบพลังและสมาธิให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น “เกมเมอร์ขาจร ครีเอเตอร์สายคอนเทนต์ คนทั่วไปที่อยากรีเฟรช หรือโปรเพลเยอร์ระดับแข่งขัน”
จุดเด่นของ G FUEL คือการสร้างรสชาติและสินค้าสุดยูนีคผ่านการร่วมงานกับเหล่าครีเอเตอร์สายเกม เช่น Matthew Beem, Alex Zedra และ PewDiePie พร้อมทั้งสร้างโปรแกรมพาร์ตเนอร์ในชื่อ Team Gamma เพื่อรวมเหล่าคนดังสายเกมไว้อย่างมีเอกลักษณ์
แรงบันดาลใจอีกด้านมาจากแฟรนไชส์เกมสุดฮิตอย่าง Sonic และ Crash Bandicoot รวมถึงตัวละครการ์ตูนดังอย่าง Spider-Man และ Thor ซึ่งกลายเป็นคอลเลกชันรสชาติที่ทั้งสนุกและแปลกใหม่
ด้วยพลังโซเชียลที่รวมกันทะลุกว่าหนึ่งพันล้านผู้ติดตาม และรีวิวระดับห้าดาวมากกว่า 300,000 รายการ G FUEL พิสูจน์ให้เห็นชัดว่าแบรนด์นี้กำลังเดินมาถูกทางอย่างเต็มภาคภูมิ
15. Pepper

Pepper คือแบรนด์ DTC บราที่สร้างขึ้นมาเพื่อผู้หญิงหน้าอกเล็กโดยเฉพาะ ตั้งแต่ไซซ์ AA, A ไปจนถึง B
ด้วยสโลแกนชัดเจน “บราสำหรับหน้าอกเล็ก” Pepper สื่อสารตรงใจกลุ่มเป้าหมายผ่านข้อความบนเว็บไซต์แบบไม่มีพลาด
ทุกประโยคถูกเลือกมาอย่างสมบูรณ์แบบ: “หมดปัญหาช่องว่างบนคัพ” ในส่วนฮีโร่ ประโยคอย่าง “หน้าอกเล็กก็ไม่เหมือนกันทุกคน” “ไม่ทำให้คุณรู้สึกน้อยค่า” และ “เราไม่ได้แค่ย่อขนาดโครงเหล็ก” ที่พูดแทนความรู้สึกได้อย่างตรงจุด
สิ่งที่ Pepper ทำได้โดดเด่นคือการสื่อถึงความมั่นใจและการท้าทายมาตรฐานความงาม มากกว่าการพูดถึงแค่ฟีเจอร์หรือดีเทลของบรา
และงานคอนเทนต์ที่ลื่นไหลเหล่านี้ยิ่งโดดเด่นขึ้นด้วยภาพประกอบที่สวยคมชัด พร้อมการเปรียบเทียบกับบราทั่วไปที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับคนหน้าอกเล็กอย่างแท้จริง.

16. Liquid Death

Liquid Death คือแบรนด์ DTC น้ำดื่มกระป๋องที่แหวกทุกกฎของสินค้าทั่วไปอย่าง “น้ำเปล่า” เพราะพวกเขาทำให้น้ำกลายเป็นของสุดไม่ธรรมดาได้อย่างเหลือเชื่อ
ด้วยสโลแกนดุดัน “ฆ่าความกระหายของคุณซะ” Liquid Death เดินหน้าสร้างแคมเปญสุดสร้างสรรค์แบบที่เลื่อนผ่านไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง
ตัวอย่างแคมเปญที่คนยังพูดถึงคือการจ้างนักแสดงตลกชื่อดัง Bert Kreischer มาเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนสในวิดีโอออกกำลังกายที่เน้นเรื่องความสำคัญของการดื่มน้ำ แต่ท่าฟิตเนสของเขาคือ… เปิดถุงมันฝรั่ง จุ่มปีกไก่ลงในซอส และกินพริกฮาลาเปญโอแทน!
ยังมีแคมเปญชวนว้าวอย่างการเทสรสชาติน้ำ Liquid Death เทียบกับ “เครื่องดื่มที่แพงที่สุดในโลก” ตั้งแต่หมึกปลาหมึกสเปนไปจนถึงซอสล็อบสเตอร์ รวมถึงโปรโมชันสุดหลุดโลกอย่าง “ขายวิญญาณของคุณ” เพื่อแลกกับการเป็นสมาชิกของแบรนด์
และนอกเหนือจากภาพลักษณ์สุดกวน Liquid Death ยังมีด้านจริงจังด้วยการบริจาคกำไรให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ทำงานด้านการลดมลพิษจากพลาสติก ช่วยโลกไปพร้อมกับความเท่แบบไม่เหมือนใคร
17. Knix

Knix คือแบรนด์ DTC ชุดชั้นในที่มุ่งมั่นจะทำให้คุณ “สบายใจกับรูปร่างของตัวเองมากขึ้น” สินค้าของแบรนด์ครอบคลุมตั้งแต่บรารายวัน สปอร์ตบรา ชุดกระชับสัดส่วน แอคทีฟแวร์ ชุดชั้นในสำหรับคุณแม่ ไปจนถึงชุดชั้นในกันซึมสุดฮิต
มีสองสิ่งที่ Knix ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ อย่างแรกคือการนำเสนอความหลากหลายของอายุ สีผิว และรูปร่างในทุกหมวดสินค้า แม้จะไม่ใช่แบรนด์เดียวที่ทำ แต่ก็ยังถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติในโลกอีคอมเมิร์ซนัก
อย่างที่สองคือกลยุทธ์โซเชียลมีเดียที่เฉียบคม โดยเฉพาะบน TikTok และ Instagram ที่ Knix ใช้ความขำ มุกตลก และมีมต่างๆ เพื่อเล่าให้เห็นถึงประโยชน์ของสินค้า รวมถึงวิดีโอแบบพูดคุยที่ให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ
วิดีโอ TikTok จำนวนไม่น้อยยังมาจากเบื้องหลังการถ่ายภาพสินค้า ทำให้ลูกค้าได้เห็นกระบวนการสร้างภาพสวยๆ แบบใกล้ชิด เป็นการเล่าเรื่องที่ทั้งจริงใจและดึงดูดสุดๆ
18. Diaspora

Diaspora คือแบรนด์ DTC เครื่องเทศที่ให้ความสำคัญกับ “ต้นทาง” ทั้งประวัติ ความเป็นมา แหล่งปลูก และการผลิตอย่างยั่งยืน โดยเติบโตไปพร้อมกับรอบการเกษตรจริงๆ หมายความว่า ถ้าฤดูกาลเก็บเกี่ยวหมด ก็ต้องรอปีถัดไป ไม่มีผลิตซ้ำแบบไม่รู้จบ
ผู้ก่อตั้งและซีอีโอคือ Sana Javeri Kadri ลูกหลานอินเดียที่เติบโตในสหรัฐฯ เธอเล่าว่าการเรียนรู้โลกหลังยุคอาณานิคมทำให้ตระหนักว่า เครื่องเทศแบบ *direct-trade* จากแหล่งปลูกเดี่ยวที่ยั่งยืน คือแนวทางสู่การ “ปลดอาณานิคม” ผ่านอาหารในชีวิตประจำวัน
ด้วยเหตุนี้ สินค้าทุกชิ้นของ Diaspora จึงบอกที่มาอย่างละเอียด ตั้งแต่แหล่งปลูกไปจนถึงปีที่เก็บเกี่ยว และบนแต่ละหน้าสินค้า คุณจะพบ “equity pledge” ที่เปิดเผยหมดเปลือก ทั้งราคาโภคภัณฑ์ ราคายุติธรรม และราคาที่ Diaspora จ่ายจริงให้เกษตรกร
เป้าหมายของ Diaspora คือการเพิ่มรสชาติให้ชีวิตผู้คนอย่างเป็นธรรม และโทนภาพสุดโดดเด่น สีเหลืองและชมพูสดทั่วทั้งแบรนด์ ก็คือวิธีที่ทำให้ Diaspora ไม่มีวันหายไปในหมู่เครื่องเทศทั่วไป
19. Braxley Bands

Braxley Bands คือแบรนด์ DTC ที่ภูมิใจเสนอ “สาย Apple Watch ที่ใส่สบายที่สุดเท่าที่เคยมีมา” ซักได้ ยืดหยุ่น และมีสีสันรวมถึงลวดลายให้เลือกมากมายหลายสิบแบบ แบรนด์นี้เริ่มต้นจากโปรเจกต์ในคลาสการตลาดปี 2017 และภายในปี 2019 ก็ทำรายได้ถึง 100,000 บาทต่อเดือน!
จุดเด่นของ Braxley Bands คือความสามารถในการสร้างความตื่นเต้นรอบตัวสินค้า ตัวอย่างเช่น ลูกค้าสามารถสมัคร SMS เฉพาะเพื่อรับสิทธิ์ VIP ในการเปิดตัวสินค้า หรือลองสั่งกล่องสุ่มที่มีสายเซอร์ไพรส์ 3 ชิ้น
อีกหนึ่งแคมเปญสุดสนุกที่ชวนลูกค้ามีส่วนร่วมคือ การแข่งขันฮัลโลวีน ลูกค้าจะแต่งตัวเป็นสาย Braxley และรับบัตรของขวัญเพื่อแลกสายฟรี ส่วนผู้ชนะจะได้ Apple Watch ใหม่ เป็นไอเดียชาญฉลาดในการสร้างกระแสและความฮือฮาให้กับสินค้าแบบไม่เหมือนใคร
20. Cometeer

Cometeer คือแบรนด์ DTC แคปซูลกาแฟแช่แข็ง ที่เมื่อถึงมือคุณแล้วก็สามารถเก็บไว้ในช่องฟรีซจนกว่าคุณจะพร้อมเพลิดเพลินกับกาแฟร้อน กาแฟเย็น ค็อกเทล หรือเครื่องดื่มอื่นๆ
จุดเด่นของ Cometeer คือการทำให้กาแฟคุณภาพสูงกลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะทำงานหรือเดินทาง และเป็นแบรนด์แรกๆ ที่นำแนวคิดแคปซูลแช่แข็งมาใช้
แคปซูลของ Cometeer อาจดูเหมือนแคปซูลกาแฟปกติในตอนแรก แต่จริงๆ แล้วแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คู่มือ “How to Melt” สำหรับเครื่องดื่มแต่ละประเภทช่วยให้เข้าใจวิธีใช้ง่ายและรวดเร็ว
แบรนด์พึ่งพาการบอกต่อเพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโปรแกรมแนะนำ “ให้ 25 บาท รับ 25 บาท” หรือเลือกซื้อ Cometeer เป็นของขวัญให้ใครก็ได้อย่างสะดวกสบาย
21. Casper

Casper คือแบรนด์ DTC ที่ปฏิวัติวงการการนอนขายที่นอน หมอน และอุปกรณ์การนอนออนไลน์ โดยตัดคนกลางออก ทำให้ราคาน่าสนใจและเข้าถึงง่าย แนวคิด “bed-in-a-box” ของ Casper ทำให้การจัดส่งและติดตั้งเป็นเรื่องง่ายดาย แบรนด์โดดเด่นด้วยการตลาด DTC ที่ชาญฉลาด มุ่งเน้นด้านวิทยาศาสตร์การนอน และมอบช่วงทดลองไร้ความเสี่ยง ความสำเร็จของ Casper ยังจุดประกายให้แบรนด์คู่แข่งในตลาดที่นอนเกิดขึ้นมากมาย
22. Glossier

Glossier คือแบรนด์ DTC เครื่องสำอางที่เน้นขายผ่านเว็บไซต์และร้านที่เลือกสรรมาเป็นอย่างดี โดยมีสินค้าครอบคลุมทั้งสกินแคร์ เมคอัพ และไลฟ์สไตล์ความงามที่ช่วยขับเน้นความสวยแบบธรรมชาติ
จุดเด่นของ Glossier อยู่ที่ความมินิมัลและสวยงามบน Instagram แพ็กเกจจิ้งโดนใจ และการสร้างชุมชนของแบรนด์ ความสำเร็จมาจากการใช้โซเชียลมีเดียที่แข็งแกร่ง เนื้อหาที่ลูกค้าสร้างเอง และการพัฒนาสินค้าจากฟีดแบ็กและความต้องการของผู้ใช้
23. Away

Away คือแบรนด์ DTC ที่ปฏิวัติวงการกระเป๋าเดินทางด้วยดีไซน์เรียบหรู แข็งแรง และมาพร้อม USB Charger ในตัว ขายตรงถึงผู้บริโภคผ่านออนไลน์ พร้อมอุปกรณ์เสริมการเดินทางหลากหลายสไตล์ ดีไซน์มินิมัล การรับประกันตลอดอายุ และการตลาดชาญฉลาด ทำให้ Away ตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่ได้อย่างลงตัว และที่สำคัญคือการสร้างแบรนด์ไลฟ์สไตล์รอบการเดินทาง ไม่ใช่แค่ขายสินค้าเท่านั้น ซึ่งทำให้แบรนด์แตกต่างในวงการ
24. Everlane

Everlane ปฏิวัติวงการแฟชั่นด้วยแนวคิดความโปร่งใสแบบสุดโต่ง แบรนด์ DTC นี้นำเสนอสินค้าพรีเมียมตั้งแต่เสื้อยืดหรูจนถึงเสื้อคลุมดีไซน์เรียบ
ความโดดเด่นของ Everlane อยู่ที่การเปิดเผยต้นทุนการผลิตและโรงงานผู้ผลิต ทำให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้ออย่างมีข้อมูล พร้อมดีไซน์มินิมัลและความมุ่งมั่นด้านจริยธรรมการการผลิตแบบ DTC ซึ่งดึงดูดผู้ซื้อที่ใส่ใจทั้งคุณภาพและความยั่งยืน
25. Stitch Fix

Stitch Fix แบรนด์ DTC ที่ยกระดับการแต่งตัวออนไลน์ด้วยการผสมผสานระหว่างอัลกอริทึมอัจฉริยะและความเชี่ยวชาญจากสไตลิสต์จริง แบรนด์นี้ส่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบบ Personalized ถึงผู้บริโภคโดยตรง ข้ามพ่อค้าปลีกแบบเดิม
ลูกค้าจะได้รับกล่องสินค้าที่คัดสรรตามรสนิยม ขนาดตัว และงบประมาณ จุดเด่นของ Stitch Fix อยู่ที่การรวมเทคโนโลยีและแฟชั่นอย่างลงตัว ใช้ AI ทำนายเทรนด์และรสนิยมลูกค้า พร้อมยังรักษาความเป็นส่วนตัวและสัมผัสจากสไตลิสต์จริง
26. Warby Parker

Warby Parker ขายแว่นสายตา แว่นกันแดด และคอนแทคเลนส์ทั้งออนไลน์และในร้านจริง แบรนด์ DTC แว่นสุดไอคอนนี้นำเสนอทางเลือกสวยงามและราคาเข้าถึงได้โดยตรงถึงผู้บริโภค ตัดคนกลางออก
แบรนด์มีโปรแกรมทดลองแว่นที่บ้าน โครงการ “ซื้อหนึ่งคู่ ให้หนึ่งคู่” และรวมประสบการณ์อีคอมเมิร์ซเข้ากับร้านจริง จุดเด่นของ Warby Parker คือการให้ความสำคัญกับลูกค้า การออกแบบทันสมัย และราคาที่ไม่แพง
27. Dollar Shave Club

Dollar Shave Club ปฏิวัติตลาดมีดโกนด้วยการส่งมีดโกนคุณภาพในราคาจับต้องได้ตรงถึงหน้าบ้านลูกค้า แบรนด์ยังขยายไลน์ไปสู่สินค้าดูแลตัวเองอื่นๆ เช่น แชมพูและสกินแคร์
ความสำเร็จของ Dollar Shave Club มาจากโมเดลสมาชิกที่ตัดคนกลางออก และการตลาดสุดขำที่โดนใจผู้ชายยุคใหม่ โฆษณาเฉียบๆ และความสะดวกสบายทำให้แบรนด์นี้โดดเด่นในวงการ Personal Care และท้าทายแบรนด์ DTC ยักษ์ใหญ่เดิมได้อย่างชัดเจน
28. Biossance

Biossance คือแบรนด์ DTC สกินแคร์คลีนและวีแกนที่เน้นเรื่องการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับส่วนผสม วิธีส่งผลต่อผิว และที่มาของวัตถุดิบ
Blog ของแบรนด์ Lab Notes มีบทความกว่า 100 เรื่อง ครอบคลุมตั้งแต่สควาเลน ครีมกันแดด การผลัดเซลล์ วิตามิน C ไปจนถึงการดูแลผิวตามฤดูกาล และอื่นๆ
ฐานข้อมูลส่วนผสมของ Biossance ยังระบุส่วนผสมทั่วไปพร้อมคะแนน EWG (Environmental Working Group) ที่บอกระดับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
การให้ความรู้เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์จนมีตำแหน่ง Director of Global Education เพื่อสร้างการสร้างไลบรารีวิดีโอ บทเรียน เว็บบินาร์ และบทความที่ผู้บริโภคสามารถเชื่อถือและใช้ตัดสินใจดูแลผิวได้อย่างดีที่สุด
29. Ten Little

Ten Little คือแบรนด์ DTC ที่นำเสนอเสื้อผ้า ของเล่น อุปกรณ์กินข้าว และแหล่งความรู้สำหรับเด็ก
เป้าหมายของแบรนด์คือทำให้การช้อปปิ้งสำหรับเด็กเป็นเรื่องง่าย ผู้ก่อตั้ง Fatma และ Julie ระบุในหน้า About ของบริษัทว่า “ตัวเลือกการช้อปปิ้งสำหรับเด็กในปัจจุบันขาดการคัดสรรและทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ และไม่ให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลสำหรับพัฒนาการของเด็กแต่ละคน ในขณะที่เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันและพัฒนาชตลอดเวลา”
เพื่อช่วยให้พ่อแม่เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น Ten Little มีแบบทดสอบเพื่อกำหนดขนาดรองเท้าและขั้นพัฒนาการของเด็ก นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม Learn & Connect ของแบรนด์ยังช่วยให้พ่อแม่เข้าถึงคำตอบที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องต่างๆ เช่น การฝึกใช้ห้องน้ำ การเคลื่อนไหว และการนอนหลับ
30. August

August คือแบรนด์ DTC สินค้าดูแลประจำเดือนที่ย่อยสลายได้ ขายทั้งผ้าอนามัย แทมปอน และแผ่นรองผ้าอนามัย นอกจากการซื้อสินค้าทีละชิ้นแล้ว ลูกค้ายังสามารถสมัครสมาชิกรับส่งรายเดือนหรือทุกไตรมาส ทั้งแบบสินค้าเฉพาะหรือชุดที่เลือกเอง
พันธกิจของ August มีสามด้านหลัก: ให้กลับคืนสู่สังคม ความยั่งยืน และวัฒนธรรม
ด้าน ให้กลับคืนสู่สังคม แบรนด์ช่วยแก้ปัญหาความยากจนในการเข้าถึงสินค้าเกี่ยวกับประจำเดือน ด้านความยั่งยืน ครอบคลุมการเป็นคาร์บอนนิวทรัล เปิดเผยขั้นตอนการผลิต จ้างแรงงานอย่างมีจริยธรรม และใช้วัสดุจากธรรมชาติ
ด้าน วัฒนธรรม August มุ่งสร้างการสนทนาเกี่ยวกับประจำเดือน เพื่อลบปัญหาการตีตรา เปิดรับทุกคนที่มีประจำเดือนให้มีส่วนร่วม และพูดคุยกับลูกค้าเพื่อพัฒนาสินค้าที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
31. Appointed

Appointed คือแบรนด์ DTC ที่จำหน่ายแพลนเนอร์ สมุดโน้ต ปฏิทิน และเครื่องเขียน ลูกค้าสามารถเลือกซื้อผ่านร้านออนไลน์หรือที่ร้านแฟลกชิพในวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งอยู่ติดกับสตูดิโอการผลิตของแบรนด์
แบรนด์ให้ความสำคัญกับรายละเอียด เช่น การแสดงฟีเจอร์ซับซ้อนของหน้าสมุด การให้ลูกค้าเลือกเพิ่มโมโนแกรมบนปก และการนำเสนอภาพลักษณ์ไลฟ์สไตล์ของสินค้าอย่างสวยงาม
สไตล์มินิมัลและสะอาดของ Appointed ปรากฏชัดเจนทุกที่ ไม่ว่าจะในร้านออนไลน์ อีเมล หรือร้านจริง เว็บไซต์ของแบรนด์ระบุว่าร้านแฟลกชิพไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่โชว์สินค้าเต็มรูปแบบ แต่ยังมอบประสบการณ์เชิงสร้างสรรค์และการค้นพบให้กับลูกค้าอีกด้วย

Glamnetic คือแบรนด์ DTC ความงามที่โดดเด่นเรื่อง เล็บสำเร็จรูป และ ขนตาแม่เหล็ก จุดแข็งที่สุดของแบรนด์อยู่ที่ โซเชียลคอมเมิร์ซ การขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียโดยตรง
แพลตฟอร์มอย่าง Facebook Instagram Pinterest และ TikTok เปิดโอกาสให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ภายในแอป และ Glamnetic ใช้โอกาสนี้อย่างเต็มที่ด้วย Live Shopping โดยผู้ก่อตั้ง Ann McFerran ไลฟ์สดบน Facebook สาธิตสินค้าและมอบส่วนลดพิเศษเฉพาะผู้ชม
ภายในเวลาเพียงหนึ่งปี Glamnetic เติบโตจากรายได้ 1 ล้านบาทเป็น 50 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากชุมชนลูกค้าและแฟนๆ ที่มีส่วนร่วมสูง แสดงให้เห็นถึงพลังของโซเชียลมีเดีย การขายผ่านโซเชียล คอนเทนต์ไลฟ์ และความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับอินฟลูเอนเซอร์
33. Caraway

Caraway คือแบรนด์ DTC เครื่องครัวสมัยใหม่ที่เน้น เครื่องครัวปลอดสารพิษและไม่ติดกระทะ สินค้าของแบรนด์ครอบคลุมทั้งหม้อ กระทะ อุปกรณ์อบ และผ้าเครื่องครัว
พันธกิจของ Caraway คือมอบตัวเลือกเครื่องครัวที่ปลอดภัย ไม่ใช้เทฟลอนหรือวัสดุที่อาจเป็นอันตราย ผู้ก่อตั้ง Jordan Nathan เปิดตัว Caraway หลังประสบปัญหาการเป็นพิษจากเทฟลอนด้วยตัวเอง
นอกจากความปลอดภัยและความสะดวกสบายแล้ว ดีไซน์ก็สำคัญมาก สินค้าของ Caraway สวยงาม มีรายละเอียดและสีสันที่เข้ากับทุกบ้าน
สินค้าขายดีของ Caraway คือ ชุดเครื่องครัวสำเร็จรูป ซึ่งให้ประโยชน์สองอย่างคือ คุ้มค่ากว่าการซื้อทีละชิ้น และมาพร้อมอุปกรณ์จัดเก็บเพื่อความเป็นระเบียบ
34. JuneShine

JuneShine คือแบรนด์ DTC เครื่องดื่มฮาร์ดคอมบูชะ และค็อกเทลกระป๋อง คำถามที่ว่า “ทำไมเราถึงรู้เรื่องอาหารที่เรากินมาก แต่ไม่รู้เรื่องแอลกอฮอล์ที่ดื่ม?” เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ก่อตั้งเริ่มต้นบ่มฮาร์ดคอมบูชะด้วยตัวเอง
นอกจากการจัดส่งสินค้าถึงบ้านและการวางขายตามร้านทั่วประเทศแล้ว JuneShine ยังสร้างประสบการณ์แบบตัวต่อตัวผ่าน Tasting Room ในแคลิฟอร์เนีย มีงานเปิดตัวสินค้าใหม่และกิจกรรมสนุกๆ เช่น Trivia Night รายสัปดาห์ที่ JuneShine Ranch ทำให้ลูกค้าได้เชื่อมต่อกับแบรนด์อย่างใกล้ชิด
35. Hint

Hint โดดเด่นในกลยุทธ์การจัดชุดสินค้าหรือ Bundling เพื่อกระตุ้นยอดขาย ตัวอย่างเช่น ลูกค้าใหม่ของ Hint สามารถซื้อสินค้า 36 ขวด ในราคาลด 45% จากราคาปกติ และมีการแนะนำรสชาติไว้เพื่อลดความยุ่งยากในการตัดสินใจ
นอกจากนี้ แบรนด์ยังมีชุดสำหรับการเปิดตัวสินค้าใหม่อีกด้วย Nik Sharma ซีอีโอของ Sharma Brands ระบุว่า Hint เดินหน้าได้ก่อนใครในด้านการจัดชุดสินค้านี้
เหตุผลที่กลยุทธ์นี้สำเร็จมี 4 ประการ: ชุดเหล่านี้รวมรสชาติใหม่ ทำให้มูลค่าเฉลี่ยของคำสั่งซื้อสูงขึ้น เตือนลูกค้าเกี่ยวกับความหลากหลายของสินค้า และช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าตามเงื่อนไขจัดส่งฟรี เป็นประโยชน์ทั้งกับ Hint และลูกค้า
36. Lovevery

ผู้ปกครองต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก และการรู้ว่า "สิ่งที่ดีที่สุด" หมายถึงอะไรอาจเป็นเรื่องท้าทายในเวลาที่ดีที่สุด
Lovevery คือแบรนด์ DTC ของเล่นและกล่องสมัครสมาชิกที่ช่วยให้พ่อแม่ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาของเล่นที่เหมาะสมสำหรับเด็ก เว็บไซต์ของแบรนด์สัญญาว่า “เราทำการวิจัยทั้งหมดให้คุณ”
ชุดของเล่นของ Lovevery มาในรูปแบบบริการสมัครสมาชิก ส่งของเล่นทุก 2–3 เดือนตามอายุและพัฒนาการของเด็ก จนถึงอายุ 4 ปี ซึ่งเป็นเวลานานพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้พ่อแม่ว่าการสมัครสมาชิกคุ้มค่า และ Lovevery ก็ทำได้ดีตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ แบรนด์ยังมี คอร์สแบบชำระเงินเกี่ยวกับกิจกรรมเช่น tummy time และการหย่านม รวมถึง จดหมายข่าวฟรี ที่มีไอเดียกิจกรรมและความรู้ด้านพัฒนาการของเด็กตามอายุ
37. Impact Dog Crates

Impact Dog Crates ได้รับความสนใจจากการสร้างกรงสุนัขที่แตกหักยาก ทำจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง
แบรนด์เชี่ยวชาญด้านการออกแบบความทนทาน ปลอดภัย และป้องกันการหลบหนี เหมาะสำหรับสุนัขที่แข็งแรงหรือกังวล กรงของพวกเขาได้รับรีวิวเชิงบวกอย่างต่อเนื่องในเรื่องความทนทานและฟีเจอร์นวัตกรรม เช่น รุ่นพับเก็บได้เพื่อสะดวกต่อการพกพา การขายตรงออนไลน์ช่วยให้ลูกค้าเลือกปรับแต่งสินค้าและได้ราคาที่จับต้องได้
38. Rest

Rest คือแบรนด์ DTC เครื่องนอนสมัยใหม่ที่ขายตรงถึงผู้บริโภค พวกเขาจำหน่าย ที่นอน หมอน และอุปกรณ์เครื่องนอนคุณภาพสูง เพื่อการนอนหลับที่ดีที่สุด
Rest โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการนอนหลับนวัตกรรมใหม่ วัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคำแนะนำส่วนบุคคลตามความชอบการนอนของแต่ละคน ประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ราบรื่นและช่วงทดลองใช้ที่ยาวนานสะท้อนโมเดล DTC ขณะที่การให้ความรู้เรื่องการนอนและการสนับสนุนลูกค้าเพิ่มมูลค่านอกเหนือจากสินค้า
39. Hismile

Hismile นำเสนอ สินค้าฟอกสีฟันนวัตกรรมใหม่ เช่น อุปกรณ์ LED และปากกาฟอกสีฟัน โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่ติดโซเชียลมีเดีย
ก่อตั้งในออสเตรเลีย แบรนด์ใช้ การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์จากผู้ใช้ เพื่อสร้างการรับรู้ Hismile ดึงดูดด้วยโซลูชันฟอกสีฟันที่บ้าน ราคาสบายกระเป๋า และดีไซน์บรรจุภัณฑ์เรียบหรู
40. Daily Harvest

Daily Harvest จำหน่ายอาหารแช่แข็งเพื่อสุขภาพและขนมผลไม้-ผักออร์แกนิก ที่สะดวกและง่ายต่อการเตรียม พวกเขามีสมูทตี้ harvest bowls flatbreads และเมนูจากพืชอื่นๆ ขายตรงผ่านเว็บไซต์และแอป
ความโดดเด่นของ Daily Harvest คือ สูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่คัดสรรโดยเชฟ เต็มไปด้วยสารอาหาร และง่ายต่อการเตรียม โมเดลสมัครสมาชิกและบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดสายตาช่วยให้แบรนด์สร้างตำแหน่งเฉพาะในตลาดอาหารสุขภาพ
สิ่งที่ทำให้แบรนด์ DTC โดดเด่น
มีการประเมินว่าปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีธุรกิจแบรนด์ DTC มากกว่า 110,000 แบรนด์ และถึงแม้แบรนด์เหล่านี้จะไม่ต้องไปแย่งพื้นที่บนชั้นวางสินค้า แต่ก็ยังต้องแข่งขันกับอีกนับพันตัวเลือกที่ผู้บริโภคสามารถซื้อได้ง่ายๆ จากปลายนิ้วที่บ้านของตัวเอง
คำถามจึงเกิดขึ้นว่า แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้บางแบรนด์เติบโตและโดดเด่น?
แม้คำตอบอาจแตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ แต่มีองค์ประกอบบางอย่างกลยุทธ์แบรนด์ DTC ชั้นนำมักมีเหมือนกันเสมอ
- พันธกิจที่ชัดเจน หลายแบรนด์ DTC เกิดขึ้นจากเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น MUD\WTR ที่มุ่งแก้ปัญหาการพึ่งพาคาเฟอีน หรือ Pulp Pantry ที่ตั้งใจลดปัญหาขยะอาหาร
- สินค้าที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร แบรนด์ DTC อย่าง DEUX และ Cometeer ประสบความสำเร็จเพราะพวกเขาสร้างสรรค์สินค้าที่กลุ่มเป้าหมาย อยากได้ในพื้นที่ที่ยังแทบไม่มีคู่แข่ง (อย่างน้อยก็ในตอนนี้)
- เรื่องราวเบื้องหลัง ผู้บริโภครักสินค้าที่มีเรื่องเล่าอยู่เบื้องหลัง เช่น เครื่องเทศของ Marc’s Magic Rub ที่สื่อถึงเรื่องราวของคุณพ่อผู้ก่อตั้งในทุกสัมผัส เรื่องเล่าที่ดีช่วยให้สินค้าน่าจดจำและมีความหมายมากขึ้น
- การตลาดสร้างสรรค์ บางแบรนด์ DTC เล่นใหญ่มากในการทำการตลาดจนไม่มีทางที่คนจะไม่สังเกตเห็น เช่น Liquid Death แบรนด์น้ำดื่มกระป๋องที่เรียกเสียงฮือฮาไปทั่ว
- ศูนย์กลางความรู้ เมื่อแบรนด์ทุ่มเทสร้างคอนเทนต์เชิงให้ความรู้แบบจริงจัง แบรนด์อย่าง Biossance และ Ten Little จึงกลายเป็น ที่พึ่งของลูกค้าที่มีคำถามหรือกำลังหาคำตอบเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ
- การวางตำแหน่งสินค้า บางครั้งสินค้าที่ลูกค้าเห็นมาตลอดทั้งชีวิต อาจกลับมาน่าสนใจได้อีกครั้งเพียงเพราะ “การวางตำแหน่ง” ที่ตรงใจกลุ่มเฉพาะ เช่น G FUEL ที่เจาะกลุ่มเกมเมอร์และสายอีสปอร์ตได้อย่างเฉียบคม
- โทนเสียงของแบรนด์ หากทำให้ถูกทาง โทนเสียงที่เด่นชัดและกล้าหาญจะตราตรึงและดึงดูดทันที ตัวอย่างคือ The Ridge แบรนด์ DTC กระเป๋าสตางค์ทรงบาง ที่สร้างตัวตนบนโซเชียลจากการล้อเลียนกระเป๋าสตางค์ใบหนาและมันได้ผลจริง
เมื่อคุณเห็นแบรนด์ DTC ที่โดดเด่น มักมีหนึ่งในกลยุทธ์เหล่านี้เป็น “เสาหลัก” ของความสำเร็จ พร้อมอีกหนึ่งหรือสองกลยุทธ์ที่ช่วยเสริมพลังให้แบรนด์ยิ่งแข็งแรงขึ้น
ตัวอย่างเช่น Diaspora ที่มีพันธกิจทำให้เครื่องเทศอร่อยและซัพพลายเชนโปร่งใส แต่ยังเล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของผู้ก่อตั้งได้อย่างจับใจ
Shopify ช่วยให้แบรนด์ DTC ของคุณเติบโตได้อย่างไร
การขายตรงถึงผู้บริโภคเปิดประตูสู่โอกาสไม่จำกัด คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ ควบคุมเส้นทางการซื้อทั้งหมด และปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างละเอียดในทุกจุดติดต่อ
Shopify ทำให้คุณบริหารแบรนด์ DTC ได้ง่ายขึ้นจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มเดียว คุณสามารถขายสินค้าแบบสมัครสมาชิก มอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อในทุกช่องทาง ทั้งโซเชียล ค้าปลีก และออนไลน์สร้างโปรแกรมสะสมความภักดี เสนอทางเลือกการชำระเงินและการจัดส่งที่ยืดหยุ่น
อยากรู้ว่าแบรนด์ระดับโลกอย่าง Lindt Heinz และ Rebecca Minkoff ใช้ Shopify ทำให้สำเร็จได้อย่างไร และคุณก็ทำได้เหมือนกันไหม? ดาวน์โหลดคู่มือแบรนด์ DTC ของเรา แล้วเริ่มก้าวแรกสู่การเติบโตที่คุณตั้งเป้าไว้เลย!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแบรนด์ DTC ขายตรงถึงผู้บริโภค
แบรนด์ DTC คืออะไร?
แบรนด์ DTC บริหารจัดการกระบวนการซัพพลายเชนทั้งหมด ตั้งแต่การผลิต การตลาด และการขายให้กับผู้บริโภค สตาร์ทอัพและแบรนด์อีคอมเมิร์ซในอุตสาหกรรมนี้มักได้รับประโยชน์จากการควบคุมข้อมูลลูกค้าและอัตลักษณ์แบรนด์จากบุคคลที่หนึ่งได้ดีขึ้น นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถเสนอราคาที่เข้าถึงได้โดยตัดคนกลางออกไป ตัวอย่างของแบรนด์ DTC คือ Allbirds
แบรนด์ DTC เป็นเทรนด์ชั่วคราวหรือไม่?
แบรนด์ DTC ไม่ใช่เทรนด์ชั่วคราว แต่กำลังพลิกโฉมธุรกิจค้าปลีกด้วยการตัดคนกลางออกและสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้า จุดเด่นของโมเดลนี้คือความสามารถในการมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลและรวบรวมข้อมูลผู้บริโภคที่มีค่า
Nike เป็นแบรนด์ DTC หรือไม่?
Nike ไม่ใช่แบรนด์ DTC โดยเฉพาะ เนื่องจาก Nike ดำเนินธุรกิจค้าส่งผ่านร้านค้าปลีกเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม Nike ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ DTC มากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยขยายร้านค้าปลีกและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของตนเองเพื่อขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง


