เรากำลังอยู่ในโลกที่อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ สามารถกรองอากาศสะอาดภายในบ้านของคุณได้ และเครื่องจักรที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่สามารถทำความสะอาดพื้นได้โดยที่คุณไม่ต้องขยับนิ้วเลย
จังหวะของนวัตกรรมในตอนนี้รวดเร็วเกินคาด ในปี 2023 มีการยื่นขอสิทธิบัตรใหม่มากถึง 3.6 ล้านฉบับ เพิ่มขึ้น 2.7% จากปีก่อนหน้า ทั้งบริษัทใหญ่และธุรกิจขนาดเล็กต่างก็สร้างสินค้านวัตกรรม บริการ และเครื่องมือที่ทำให้ชีวิตของผู้คนง่ายขึ้น สุขภาพดีขึ้น และสนุกมากขึ้น
การสร้างสินค้านวัตกรรมมีพลังในการพลิกโฉมอุตสาหกรรม สร้างงานใหม่ และแม้แต่ขยายขอบเขตการสำรวจไปไกลถึงอวกาศ ต่อไปนี้คือสินค้านวัตกรรมเด่นๆ ที่จะช่วยจุดประกายไอเดียให้กับการระดมความคิดครั้งต่อไปของคุณ
สินค้านวัตกรรมคืออะไร
สินค้านวัตกรรมคือสินค้า หรือบริการใหม่ หรือได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่ในตลาดก่อนหน้า โดยสินค้านี้ต้องมอบคุณค่าให้ผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างหนึ่งคือ Dyson Airwrap multi-styler ที่ใช้หลักการ “Coanda airflow effect” ในการม้วนและจัดแต่งทรงผมโดยไม่ต้องใช้ความร้อนสูง วิธีนี้ถือเป็นนวัตกรรมเพราะสามารถเป่าผมให้แห้งได้รวดเร็วโดยไม่ทำให้เส้นผมเสียจากความร้อน ซึ่งเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมนี้
โดยทั่วไปแล้ว สินค้านวัตกรรมที่แท้จริงจะมีคุณลักษณะสำคัญ 4 ประการคือ
- ความแปลกใหม่: มีคุณสมบัติหรือเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
- ประโยชน์ใช้สอย: แก้ปัญหาที่ผู้บริโภคเผชิญอยู่จริง หรือทำให้สิ่งที่มีอยู่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
- การนำไปใช้จริง: ถูกนำออกสู่ตลาดแล้ว ไม่ใช่แค่ต้นแบบ
- ผลกระทบ: สร้างผลลัพธ์ เช่น ยอดขายที่เติบโต ความยั่งยืนที่ดีขึ้น หรือประสบการณ์ผู้ใช้ที่เหนือกว่า
ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ? จากรายงานการศึกษานวัตกรรมประจำปีครั้งที่ 18 ของ Boston Consulting Group พบว่า ผู้บริหารถึง 83% จัดให้นวัตกรรมเป็นหนึ่งในสามลำดับความสำคัญสูงสุดในปี 2024 แต่มีเพียง 3% เท่านั้นที่รู้สึกว่าธุรกิจของตน “พร้อมสำหรับนวัตกรรม”
การเข้าใจว่าสินค้านวัตกรรมคืออะไร จะช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสของสินค้าที่มีศักยภาพ และหลีกเลี่ยงการไล่ตามสิ่งใหม่ที่ไม่มีคุณค่าจริง
ตัวอย่างสินค้านวัตกรรม
- สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
- สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
- เทคโนโลยีและแกดเจ็ต
- สินค้าอุปโภคบริโภค
- การศึกษาและความบันเทิง
- การคมนาคม
- ผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล
คุณสามารถพบตัวอย่างของสินค้านวัตกรรมได้แทบทุกอุตสาหกรรมในโลกค้าปลีก บางอย่างมีวางขายในร้านค้าทั่วไป บางอย่างขายเฉพาะออนไลน์ และบางอย่างจำหน่ายเฉพาะให้กับลูกค้าระดับองค์กร ด้านล่างคือตัวอย่างของสินค้านวัตกรรมที่แบ่งตามอุตสาหกรรม
สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

เทคโนโลยีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีรุ่นใหม่ล่าสุดได้นำการติดตามระดับการแพทย์มาสู่ชีวิตประจำวันของเรา
จากรายงาน 2025 Global Innovation Scorecard จาก CTA เทเลเฮลท์ (Telehealth) เป็นหนึ่งใน “ตัวเร่งนวัตกรรม” ทั้งหกด้าน ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่อาร์เจนตินา อินเดีย ไปจนถึงสหราชอาณาจักร ต่างพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเทเลเฮลท์
สินค้านวัตกรรมที่กำลังมาแรงในหมวดนี้ เช่น
- เครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง เช่น Lingo ที่ส่งข้อมูลระดับน้ำตาลแบบเรียลไทม์ไปยังแอปที่ขับเคลื่อนด้วย AI แอปจะวิเคราะห์ระดับน้ำตาลและให้คำแนะนำด้านอาหารและการออกกำลังกาย
- พ่นยาอัจฉริยะ เช่น Hailie SmartInhaler ที่สามารถติดเข้ากับพ่นยาที่มีอยู่แล้ว บันทึกการใช้งาน และส่งการแจ้งเตือนถึงผู้ป่วยและแพทย์เพื่อลดการเกิดอาการหอบหืดในเด็ก
- สมาร์ตริงอัจฉริยะ AI เช่น Samsung Galaxy Ring ที่ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจนในเลือด (SpO₂) และช่วงการนอนหลับ พร้อมแปลงข้อมูลเหล่านี้เป็นคะแนนความพร้อมส่วนบุคคลในแอป Samsung Health
- เครื่องวัดความดันโลหิตอัจฉริยะ เช่น Withings BPM Vision ที่สามารถวัดความดัน ซิงก์ข้อมูลเข้ากับแอป และสร้างรายงาน PDF สำหรับแพทย์ จำหน่ายในราคา 179 ดอลลาร์ นำการตรวจวัดความดันระดับคลินิกมาสู่การใช้งานที่บ้าน
- อุปกรณ์ติดตามการนอนหลับ เช่น SleepScore Max ที่ติดตามและวิเคราะห์รูปแบบการนอนเพื่อปรับปรุงคุณภาพการพักผ่อน
- ชุดตรวจสุขภาพทางไกล เช่น digiMed ที่บรรจุเครื่องมือวินิจฉัยสำหรับใช้ในการปรึกษาแพทย์จากระยะไกล
สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

เศรษฐกิจหมุนเวียนกำลังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดสินค้านวัตกรรมสีเขียว ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในปี 2026 ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ ไปจนถึงอาคารที่สามารถผลิตพลังงานได้เอง
ตัวอย่างสินค้าที่โดดเด่นในหมวดนี้ ได้แก่
- บรรจุภัณฑ์จากสาหร่ายทะเล: แบรนด์บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน Notpla เคลือบกล่องอาหารและแทนที่ซองซอสพลาสติกด้วยฟิล์ม Ooho ที่กินได้ ทำจากสาหร่ายสีน้ำตาล หลังจากคว้ารางวัล Earthshot Prize มา Notpla ได้นำวัสดุดังกล่าวมาใช้ในคาเฟ่ของ Ikea สาขา Oxford Street และตั้งเป้าที่จะลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวให้ได้หนึ่งพันล้านชิ้นภายในปี 2030
- วัสดุทดแทนโฟมโพลีสไตรีน: Cruz Foam ใช้เปลือกกุ้งมาผลิตเป็นโฟมกันกระแทกที่สามารถย่อยสลายได้ในปุ๋ยหมักภายใน 60 วัน
- กระจกพลังงานแสงอาทิตย์: ClearVue จำหน่ายกระจกใสที่สามารถเปลี่ยนแสงธรรมชาติให้เป็นพลังงาน โดยในปี 2024 บริษัทได้รับคำสั่งซื้อเชิงพาณิชย์ครั้งแรกจากอาคารสูงหกชั้นในเมลเบิร์น
- แบตเตอรี่รีไซเคิล”: สตาร์ทอัปจากเนวาดา Redwood Materials รีไซเคิลแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนกว่า 70% ของทวีปอเมริกาเหนือ โดยสามารถกู้คืนแร่ธาตุสำคัญได้ถึง 98% และนำกลับมาผลิตเป็นแคโทดชนิดนิกเกิลสูงสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
- ระบบฟาร์มแนวตั้ง: แบรนด์อย่าง AeroFarms ใช้พื้นที่แนวตั้งและสภาพแวดล้อมควบคุมในการปลูกพืชในเขตเมือง ช่วยลดการใช้ที่ดินและน้ำได้อย่างมาก
เทคโนโลยีและแกดเจ็ต

เทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค (Consumer tech) พัฒนาอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไปจนถึงการชาร์จไร้สายที่ใช้งานได้กับหลายอุปกรณ์ คาดว่าตลาด AI จะเติบโตแตะ 4.8 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2033 เพิ่มขึ้นถึง 25 เท่าในเวลาเพียงสิบปี ซึ่งจะพลิกโฉมเทคโนโลยีที่เราใช้ในอนาคตอย่างสิ้นเชิง
ตัวอย่างสินค้านวัตกรรมที่น่าสนใจในหมวดนี้ ได้แก่
- คอมพิวเตอร์ AI: หมวดคอมพิวเตอร์ Copilot+ PC รุ่นใหม่ของ Microsoft มาพร้อมหน่วยประมวลผลประสาท (Neural Processor) ในแต่ละเครื่อง มอบฟีเจอร์ใหม่อย่าง Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยปรากฏบนหน้าจอแบบไทม์ไลน์ และระบบแปลภาษาแบบเรียลไทม์
- สมาร์ทโฟนพับได้: สมาร์ทโฟนอย่าง Samsung Galaxy Z Fold 6 ผสานความสะดวกของมือถือเข้ากับขนาดหน้าจอของแท็บเล็ต
- แว่นตาอัจฉริยะ: แกดเจ็ตอย่าง Ray-Ban รุ่นใหม่ มาพร้อมกล้อง 12 MP ลำโพงแบบเปิดหู และระบบสั่งงานด้วยเสียง Meta AI โดยผู้ผลิต EssilorLuxottica ขายไปแล้วกว่า 2 ล้านชิ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และตั้งเป้าผลิตถึง 10 ล้านชิ้นต่อปี
- พื้นผิวชาร์จไร้สาย: อุปกรณ์ของคุณสามารถชาร์จได้โดยไม่ต้องใช้สาย เพียงวางบนพื้นผิวที่มีเทคโนโลยีชาร์จไร้สาย เช่น เทคโนโลยีที่พัฒนาโดย WiTricity
- อุปกรณ์แปลภาษาแบบสวมใส่: แปลภาษาพูดแบบเรียลไทม์ ช่วยลดช่องว่างทางการสื่อสาร เช่น Pocketalk
- แล็ปท็อปอเนกประสงค์: Lenovo ThinkBook Plus Gen 5 Hybrid แล็ปท็อปรุ่นแรกที่สามารถถอดหน้าจอและคีย์บอร์ดออกจากกันได้ ใช้งานได้ทั้งแบบแท็บเล็ตหรือ PC แยกเดี่ยว ผลงานนี้คว้ารางวัล Innovation Award จากงาน CES 2025
สินค้าอุปโภคบริโภค

ธุรกิจไม่จำเป็นต้องสร้างกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ดู “นวัตกรรม” เสมอไป การพัฒนาสินค้านวัตกรรมอาจเกิดจากการต่อยอดหรือปรับปรุงสินค้าอุปโภคที่มีอยู่ในตลาดให้ดีขึ้นก็ได้ ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
- ขวดน้ำรสกลิ่น: สตาร์ทอัปเยอรมัน Air Up พัฒนาขวดน้ำที่ใช้พ็อดสร้างกลิ่นหลอกสมองผ่านการดมย้อนโพรงจมูก (retronasal smell) ช่วยให้เด็กดื่มน้ำได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเติมน้ำตาล และกลายเป็นกระแสในโรงเรียนทั่วสหราชอาณาจักรในปี 2024
- เตาย่างในร่ม: เตาอบเม็ดไม้ตั้งโต๊ะของ GE ช่วยให้คนอยู่คอนโดสามารถอบเนื้อได้ตลอดทั้งปี ได้รับเลือกจาก Time Magazine ให้เป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2024 ด้วยระบบหัววัดผ่านแอปและโหมด “keep warm”
- ของเล่นสำหรับผู้พิการทางสายตา: แบรนด์คลาสสิกอย่าง Lego ออกแบบบล็อกตัวต่อที่มีจุดอักษรเบรลล์และตัวอักษรพิมพ์สำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น
- เม็ดซักผ้าแบบรีฟิลไร้พลาสติก: แบรนด์ Blueland ผลิตเม็ดผงซักฟอกในซองกระดาษย่อยสลายได้ ปราศจากฟิล์มพลาสติก PVA โดยใช้กลยุทธ์การตลาดแบบตรงถึงผู้บริโภค (DTC) ผ่านแคมเปญอย่าง Shop Campaigns เพื่อสร้างฐานสมาชิกและยอดขายซ้ำ
- กระจกอัจฉริยะ: กระจกอัจฉริยะอย่าง CareOS รวมจอแสดงผลดิจิทัลสำหรับติดตามการออกกำลังกาย ทดลองสวมเสื้อผ้าเสมือนจริง และแสดงข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล
- ขวดน้ำล้างตัวเอง: แบรนด์อย่าง LARQ ใช้ไฟ UV-C LED ในการฆ่าเชื้อและทำความสะอาดตัวเองโดยอัตโนมัติ
การศึกษาและความบันเทิง

นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์เติบโตได้ดีในวงการการศึกษา หลายบริษัท Ed-tech ใช้นวัตกรรมเพื่อช่วยให้ผู้เรียนบรรลุศักยภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ จะมีคอร์สหรือบริการสินค้านวัตกรรมที่ช่วยให้คุณเรียนรู้ได้ เช่น
- AI ทางการศึกษา: Khan Academy เปิดตัว Khanmigo (ติวเตอร์ AI) ในปี 2023 โค้ช GPT-4 ช่วยนำผู้เรียนผ่านคอร์สต่างๆ และเพิ่มการมีส่วนร่วมทั้งกับผู้เรียนและครูผู้สอน
- แว่น VR: แว่น VR เช่น Meta Quest 3 มอบประสบการณ์เสมือนจริงทั้งเพื่อการเล่นเกมและการศึกษา ด้วยจอแสดงผลที่ดึงดูด ทำให้คุณเรียนรู้โดยไม่ต้องออกจากห้อง
- ชุดคิทวิศวกรรม: บล็อกสีสัน มอเตอร์ และแอปโค้ดดิ้งแบบ Scratch สอนวิศวกรรมสำหรับเด็ก K-5 ผ่าน Lego Education SPIKE Prime ชุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเรียนรู้ STEAM และ STEM ในห้องเรียน
การคมนาคม
นวัตกรรมยังเปลี่ยนวิธีการขับเคลื่อนยานพาหนะ โดยใช้แบตเตอรี่มาแทนน้ำมันเหลว ซึ่งทำให้หลายคนตื่นเต้นกับอนาคตการขนส่งที่ปลอดคาร์บอน นี่คือตัวอย่างสินค้านวัตกรรมด้านการขนส่ง:
- รถยนต์ไฟฟ้า: Chevrolet Equinox EV ของ GM รถครอสโอเวอร์ราคาต่ำกว่าประมาณ 1,100,000 บาทในสหรัฐอเมริกา มีระยะทางสูงสุดประมาณ 513 กิโลเมตรตามการประเมินของ EPA
- อากาศยานไฟฟ้าขึ้นลงแนวดิ่ง: Joby กำลังพัฒนา eVTOL สำหรับผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ ใกล้เสร็จสิ้นการรับรอง FAA Phase 4 และส่งมอบ eVTOL สองลำไปยังฐานทัพอากาศ Edwards แล้ว
- แบตเตอรี่โซลิดสเตต: เทคโนโลยีเกิดใหม่ที่จะทำให้แบตเตอรี่รถขนาดใหญ่ชาร์จได้เร็วขึ้นและใช้งานได้นานขึ้นหลังการชาร์จหลายครั้ง
- รถไฟฟ้าโซลาร์: Aptera เปิดตัวรถสามล้อ น้ำหนักเบา “never-plug” รุ่นสำหรับผลิตจริงที่งาน CES 2025
ผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล
แนวโน้มสำคัญในปี 2025 คือการเติบโตของผู้ช่วย AI ที่ช่วยอัตโนมัติงานประจำ สร้างสื่อดั้งเดิม และให้เนื้อหาส่วนตัว นี่คือตัวอย่างสินค้านวัตกรรมเด่น:
- Microsoft 365 Copilot: ผู้ช่วย AI ของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีที่ผสานกับ Word, Excel, Outlook และ Teams ธุรกิจต่างๆ กำลังปรับใช้เวิร์กโฟลว์ AI อย่างรวดเร็ว
- OpenAI Sora: โมเดล AI แปลงข้อความเป็นวิดีโอ สร้างคลิปวิดีโอ 1080 พิกเซล และสามารถขยายฟุตเทจที่มีอยู่ในอัตราส่วนใดก็ได้ด้วยคำสั่ง AI อย่างง่าย เปิดให้สาธารณชนเข้าถึงในปี 2025 และกระตุ้นคลื่นคอนเทนต์วิดีโอ AI สำหรับโฆษณา โซเชียล และอีคอมเมิร์ซ
- Spotify AI DJ: บริการสตรีมมิ่งเพลงเปิดตัว DJ โต้ตอบด้วยเสียง คัดสรรเพลงและคอมเมนต์แบบเรียลไทม์ เปิดตัวทั่วโลกในปี 2024 และปัจจุบันให้บริการผู้ใช้ Premium กว่า 268 ล้านราย ทำสถิติผู้สมัครใหม่ไตรมาส 1 สูงสุดตั้งแต่ปี 2020
- Shopify Magic: AI ด้านอีคอมเมิร์ซเริ่มจากการสร้างคำบรรยายสินค้า แก้ไขภาพ และตอบสนทนาลูกค้า ปัจจุบันเพิ่มฟีเจอร์ AI Store Builder ที่สร้างร้านค้าออนไลน์พร้อมขายจากคีย์เวิร์ดเพียงไม่กี่คำ
เทรนด์สินค้านวัตกรรม
- AI และแมชชีนเลิร์นนิ่ง
- ความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียน
- การปรับแต่งเฉพาะและการผลิตสินค้าตามความต้องการ
- เทคโนโลยีสุขภาพและอุปกรณ์สวมใส่
AI และแมชชีนเลิร์นนิ่ง
AI แบบสร้างสรรค์และฝังตัวกำลังกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานในสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ IDC คาดการณ์ว่าบริษัทต่างๆ จะลงทุนกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI ราว 337 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 และตัวเลขนี้อาจเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2028
McKinsey พบว่า 92% ของบริษัทวางแผนเพิ่มการลงทุนด้าน AI ในอีกสามปีข้างหน้า แต่มีเพียง 1% ที่คิดว่าตนเองใช้ AI ได้เต็มศักยภาพ แสดงให้เห็นว่าบริษัทส่วนใหญ่ยังใช้ AI ไม่เต็มที่ ช่องว่างนี้จึงสร้างโอกาสให้สินค้านวัตกรรมที่ชาญฉลาดมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น เครื่องใช้ AI ของ Samsung ที่ช่วยสร้างรายการซื้อของ และเครื่องมือสร้างสื่อด้วย AI ของ Adobe Firefly กำลังกลายเป็นฟีเจอร์ที่ผู้บริโภคเริ่มคาดหวังในชีวิตประจำวัน
ความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียน
โมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนกำลังเป็นหัวใจของสินค้านวัตกรรมด้านความยั่งยืน
รายงาน Circularity Gap Report 2025 ของ CGR พบว่าอัตราการใช้วัสดุทั่วโลกลดลงเหลือ 6.9% ในปี 2025 จาก 8.6% ในปี 2020 World Economic Forum ยังสนับสนุนให้แบรนด์ออกแบบสินค้าสำหรับการนำกลับมาใช้ใหม่และซ่อมแซมตั้งแต่ต้น
ผู้บริโภคก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน จากรายงาน Voice of the Consumer ปี 2024 ของ PwC พบว่าผู้ซื้อยินดีจ่ายเพิ่มเฉลี่ย 9.7% สำหรับสินค้าที่ได้จากแหล่งยั่งยืน แม้ในสภาพเงินเฟ้อ
ธุรกิจที่อยากเน้นความยั่งยืนจึงเริ่มมองหาสินค้าแบบเติมได้ใหม่ เช่น ภาชนะสแตนเลส หรือวัสดุจากพืชอย่างหนัง Mirum เป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าใหม่
การปรับแต่งเฉพาะและการผลิตสินค้าตามความต้องการ
ลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่เป็นตัวเอง การปรับแต่งและการทำสินค้าตามความต้องการจึงกลายเป็นตัวสร้างความแตกต่างให้สินค้าที่สำคัญ McKinsey รายงานว่า 71% ของผู้บริโภคคาดหวังการโต้ตอบที่ปรับให้เหมาะกับตัวเอง และ 76% รู้สึกหงุดหงิดเมื่อไม่ได้รับสิ่งนั้น
การปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลและการทำสินค้าตามความต้องการคือสองด้านของเหรียญเดียวกันในประสบการณ์ลูกค้า แต่ละแบบมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน
- การปรับแต่ง (Personalization) ขับเคลื่อนโดยแบรนด์ ใช้ข้อมูลเพื่อปรับหน้าร้าน แคมเปญการตลาด และขั้นตอนการชำระเงิน
- การทำสินค้าตามความต้องการ (Customization) ให้ผู้ซื้อเลือกได้เอง เช่น เลือกสีกระเป๋า เพิ่มตัวอักษรย่อ หรือสร้างชุดสกินแคร์ของตัวเอง
ทั้งสองอย่างสำคัญ การศึกษาของ Monetate พบว่าการปรับแต่งด้วยข้อมูลช่วยเพิ่มอัตราการแปลง 8% ขณะที่แบรนด์ที่รวมการขายเพิ่ม การขายข้ามสินค้า และชุดสินค้าที่ปรับเปลี่ยนได้ รายงานค่าเฉลี่ยคำสั่งซื้อสูงขึ้น 12%
นอกจากนี้ ความสะดวกก็สำคัญ 87% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลบอกว่าสะดวกสบายเป็นปัจจัยหลักในการซื้อ การให้ผู้ซื้อปรับแต่งสินค้าด้วยตัวเองจึงสร้างมูลค่าได้จริง
เทคโนโลยีสุขภาพและอุปกรณ์สวมใส่
การดูแลสุขภาพกลับมาสู่มือและข้อมือของผู้บริโภค
IDC รายงานว่า 534.6 ล้านอุปกรณ์สวมใส่ เช่น สมาร์ทวอทช์ แหวน และหูฟังอัจฉริยะ ถูกจัดส่งในปี 2024 เติบโต 4.1% แม้ว่าตลาดในบางภูมิภาคจะใกล้จุดอิ่มตัว
มูลค่าตลาดคาดว่าจะเกิน 300 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029 โดยขับเคลื่อนจากอุปกรณ์ที่วัดไฟฟ้าหัวใจ การนอนกรน และในอนาคต การตรวจน้ำตาลในเลือดแบบไม่รุกราน
ผู้เล่นใหม่ เช่น Withings U-Scan (ชุดตรวจปัสสาวะ) และ Dexcom Stelo (แผ่นตรวจน้ำตาล) แสดงให้เห็นว่าการวินิจฉัยระดับผู้บริโภคและการแพทย์ทางไกลเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักนวัตกรรมด้านการค้า
วิธีสร้างสินค้านวัตกรรมในปัจจุบัน
- เริ่มต้นจากปัญหาจริงของลูกค้า
- มองหาโอกาสจากตลาดเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่มีใครจับจอง
- ใช้ข้อมูลลูกค้าในการปรับปรุงหรือสร้างสินค้าที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล
- ทดสอบไอเดียใหม่ผ่านการพรีออร์เดอร์หรือเปิดขายจำนวนจำกัด
- เพิ่มแนวคิดเรื่องความยั่งยืนให้เป็นแรงขับเคลื่อนนวัตกรรม
เริ่มต้นจากปัญหาจริงของลูกค้า
สถิติล่าสุดแสดงว่าเกือบ 50% ของธุรกิจปิดตัวหลังจากห้าปี สาเหตุหลักมาจากการไม่ตรงกับความต้องการของตลาด
การสร้างสินค้านวัตกรรมเริ่มต้นด้วยการเข้าใจลูกค้า สังเกตว่าปัญหาเกิดขึ้นตรงไหน รวบรวมข้อมูลจากแบบสำรวจลูกค้าและตั๋วสนับสนุนเพื่อหาจุดเจ็บปวดที่คุ้มค่าที่จะแก้ไข
บางครั้งลูกค้าคนนั้นอาจเป็นคุณเอง เช่น Clay Alexander ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Ember แก้วกาแฟอุ่นอัตโนมัติ เขารู้สึกรำคาญกับกาแฟอุ่นๆ ที่เย็นลงบนโต๊ะของเขา Ember จึงกลายเป็นทางแก้ปัญหา

แก้วกาแฟนี้ ราคาเกิน 100 ดอลลาร์ แต่สามารถรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมด้วยแอปบนสมาร์ทโฟน มีผู้สนับสนุน 1,950 คน ให้ทุนสำหรับไอเดียต้นฉบับบน Indiegogo และบริษัทขายได้มากกว่า 3 ล้านหน่วย Alexander เล่าในบทสัมภาษณ์กับ TechCrunch ปี 2024
มองหาโอกาสจากตลาดเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่มีใครจับจอง
การเข้าไปแข่งขันในหมวดหมู่สินค้าที่มีคนขายล้นอยู่แล้ว มักเป็นหนทางที่ทำให้เงินทุนและทรัพยากรถูกใช้ไปโดยไม่ได้ผล ในทางกลับกัน สินค้านวัตกรรมจำนวนมากมักเริ่มต้นจากการตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้เฉพาะที่มีความสนใจแรงกล้า (microcommunity) ก่อนจะขยายสู่ตลาดวงกว้าง
ยกตัวอย่างเช่น Oura Ring ที่เริ่มจากการเป็นอุปกรณ์สำหรับกลุ่ม biohacker ใช้ติดตามสุขภาพของตัวเอง ก่อนจะได้รับความนิยมในวงกว้างหลังเปิดตัวในปี 2015 ปัจจุบันบริษัทมียอดขายมากกว่า 2.5 ล้านชิ้น และมีมูลค่ากว่า 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูลปี 2024)
คุณสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Google Trends หรือเครื่องมือวิเคราะห์โซเชียลอย่าง BuzzSumo เพื่อดูว่าหัวข้อไหนกำลังเป็นกระแสออนไลน์ และใช้ข้อมูลนั้นยืนยันไอเดียสินค้าได้ บางทีเทคโนโลยีฟิตเนสสำหรับผู้สูงอายุ หรือขนมเพื่อสาย biohacker อาจกลายเป็นแนวคิดสินค้านวัตกรรมชิ้นต่อไปของคุณก็ได้
ใช้ข้อมูลลูกค้าในการปรับปรุงหรือสร้างสินค้าที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล
ข้อมูลลูกค้าไม่ได้มีไว้แค่ใช้ทำการตลาดเท่านั้น คุณยังสามารถใช้เพื่อวางแผนพัฒนาสินค้ารุ่นถัดไป หรือปรับปรุงสินค้าที่คุณมีอยู่แล้วให้ดีขึ้นได้ด้วย
Shopify ช่วยให้การเก็บข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการลงชื่อเข้าใช้ผ่าน Shop Pay โปรไฟล์จาก POS หรือการโต้ตอบอื่น ๆ ทุกอย่างจะถูกรวมไว้ในโปรไฟล์ลูกค้าเดียว ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในที่เดียวพร้อมให้ใช้ต่อเนื่อง คุณสามารถตรวจจับสัญญาณ ปรับสินค้า เปิดขาย วัดผล และทำซ้ำได้เรื่อย ๆ
ทดสอบไอเดียใหม่ผ่านการพรีออเดอร์หรือเปิดขายจำนวนจำกัด
การพรีออเดอร์และการเปิดขายแบบจำกัดจำนวนช่วยให้คุณรู้ว่าผู้คนพร้อมจะจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าของคุณหรือไม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมักมองข้ามในกระบวนการพัฒนาสินค้า
ผู้ก่อตั้งหลายคน เช่นในตัวอย่างของ Ember ใช้แพลตฟอร์มระดมทุนอย่าง Indiegogo หรือ Kickstarter เพื่อระดมเงินทุนสาธารณะ ก่อนจะเปิดตัวสินค้าเมื่อแนวคิดผลิตภัณฑ์กลายเป็นสินค้าต้นแบบ
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถสร้างหน้ารอเปิดตัวสินค้า (Coming Soon) ในร้าน Shopify ของคุณเองได้เช่นกัน หรือหากคุณต้องการทดสอบความต้องการสินค้านวัตกรรมจากแบรนด์อื่น ๆ คุณก็สามารถเลือกดูและนำเข้าสินค้าจากซัพพลายเออร์ใน Shopify เพื่อเพิ่มสินค้าที่กำลังเป็นเทรนด์ลงในแคตตาล็อกได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องลงทุนสต็อกล่วงหน้า
เพิ่มแนวคิดเรื่องความยั่งยืนให้เป็นแรงขับเคลื่อนนวัตกรรม
สเปกหรูหรือเทคโนโลยีล้ำสมัยมักเรียกเสียงฮือฮาได้ในช่วงแรก แต่ก็มักจางหายไปในเวลาไม่นาน (จำ Google Glass ได้ไหม) ในทางกลับกัน ความยั่งยืนคือสิ่งที่ยังคงโดดเด่นและมีคุณค่าเสมอ โดยเฉพาะในยุคนี้
ลองปรับสินค้าหรือบริการที่มีอยู่ให้ “เขียวขึ้น” ด้วยการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผลิตอย่างมีจริยธรรมมากขึ้น หรือออกแบบให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม
ตัวอย่างเช่น Allbirds เปิดตัวรองเท้าคาร์บอนเป็นศูนย์คู่แรกของโลก (M0.0NSHOT) ในจำนวนจำกัดและจำหน่ายเฉพาะบางเมือง เพื่อเน้นให้เห็นว่าสินค้าแบบนี้ยังถือเป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่มาตรฐานทั่วไป แบรนด์รองเท้ารายนี้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความยั่งยืนยังคงเดินหน้าผลักดันนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง แม้กับสินค้าธรรมดาอย่าง “รองเท้า” เองก็ตาม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสินค้านวัตกรรม
จะหาไอเดียสินค้านวัตกรรมได้จากไหน
เมื่อระดมความคิดหาไอเดียสินค้านวัตกรรม ให้ลองจินตนาการถึงสิ่งที่ตลาดต้องการแต่ยังไม่มีอยู่จริง เริ่มจากโฟกัสที่ปัญหาที่คุณอยากแก้ไขในชีวิตประจำวันก่อน แล้วค่อยพิจารณาเรื่องความเป็นไปได้และการขยายต่อไป
สินค้านวัตกรรมมีความเสี่ยงมั้ย
การเปิดตัวสินค้าตัวใหม่มีความเสี่ยงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสินค้านวัตกรรมหรือไม่ก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยง ควรทำการประเมินตลาดก่อนเพื่อยืนยันว่าสินค้าใหม่ของคุณมีลูกค้าที่เป็นไปได้ คุณยังสามารถสร้างตลาดของตัวเองได้ เช่นเดียวกับที่ Mimi Ikonn ทำกับแบรนด์ Luxy Hair ของเธอเมื่อเริ่มกลยุทธ์การตลาดบน YouTube
สินค้านวัตกรรมที่ล้ำที่สุดคืออะไร
ไม่มีสินค้านวัตกรรมตัวเดียวที่ถือว่ามากที่สุด ขึ้นอยู่กับปัญหาที่สินค้านั้นแก้ ตัวอย่างเช่น Dyson Airwrap ที่ม้วนผมโดยไม่ใช้ความร้อน หรือ Microsoft Copilot ที่นำ AI สร้างสรรค์ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ Microsoft ทั้งหมด ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและมีประโยชน์ชัดเจน
สินค้านวัตกรรม หมายถึงอะไร
สินค้านวัตกรรมคือสินค้าหรือบริการใหม่หรือปรับปรุงที่นำออกสู่ตลาด โดยมาพร้อมฟีเจอร์หรือเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใคร มักมีคุณสมบัติครบ 4 ด้าน: ความแปลกใหม่ การใช้งานได้จริง การนำไปใช้ได้จริง และผลกระทบที่วัดได้
สินค้าแบบไหนที่น่าผลิตและคิดค้นในตอนนี้
ไอเดียสินค้าที่มีโอกาสเด่นๆ ในปี 2026 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์และบริการที่ใช้เทคโนโลยี AI สินค้าแนวรักษ์โลก อย่างพวกบรรจุภัณฑ์จากสาหร่ายทะเล และเทคโนโลยีดูแลสุขภาพที่สามารถใช้งานได้เองที่บ้าน
ตัวอย่างสินค้านวัตกรรมมีอะไรบ้าง
ตัวอย่างล่าสุด เช่น Samsung Galaxy Ring (อุปกรณ์สวมใส่ด้านสุขภาพ), บรรจุภัณฑ์อาหารจากสาหร่ายของ Notpla (ความยั่งยืน), Microsoft Copilot+ PCs (ฮาร์ดแวร์ AI), เครื่องรมควัน GE แบบตั้งโต๊ะ (เครื่องใช้ในบ้าน), และเครื่องบิน eVTOL ของ Joby (การขนส่งยุคใหม่)


