คู่มือครบวงจร TikTok Affiliate ปี 2025

กลยุทธ์การตลาดแบบเสียค่าโฆษณาส่วนใหญ่ มักต้องให้ธุรกิจจ่ายเงินล่วงหน้าสำหรับแผนโฆษณา โดยหวังว่าจะสร้างผลตอบแทนได้ แม้แต่การโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (Cost-per-Click) ก็ไม่การันตีผลลัพธ์ เพราะอาจจ่ายแพงกับการคลิกที่ไม่ได้นำไปสู่การขายจริง

การตลาดแบบ Affiliate ถือเป็นข้อยกเว้นที่หาได้ยาก เพราะการจ่ายค่าคอมมิชชันขึ้นอยู่กับยอดขายจริง โปรแกรม Affiliate ที่บริหารจัดการดีแทบไม่ขาดทุน และถ้าโปรแกรมไม่สร้างยอดขายเลยก็แทบจะไม่เสียค่าใช้จ่าย (หรือใกล้เคียงกับไม่เสียเลย)

โปรแกรม Affiliate เปิดโอกาสให้แบรนด์เข้าถึงพลังการสร้างความสัมพันธ์และการเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะแบบ Influencer Marketing ได้ โดยมีความเสี่ยงทางการเงินน้อย อีกทั้งยังเปิดทางให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างรายได้จากผู้ติดตาม และเพิ่มช่องทางรายได้แบบกึ่งพาสซีฟได้อีกด้วย

นี่คือวิธีการทำงานของ TikTok Affiliate Marketing และวิธีที่ทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์สามารถใช้กลยุทธ์นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Affiliate Marketing คืออะไร?

Affiliate Marketing คือรูปแบบความร่วมมือระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์ที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ โดยโปรแกรม Affiliate Marketing คือข้อตกลงที่ครีเอเตอร์โปรโมตสินค้า หรือบริการของแบรนด์ไปยังผู้ติดตามของตนเองผ่านโซเชียลมีเดีย บล็อก อีเมล ฯลฯ และทุกครั้งที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์โปรโมชันของครีเอเตอร์ แบรนด์จะจ่ายค่าคอมมิชชันตามที่กำหนดไว้

รายละเอียดวิธีการทำงานของ Affiliate Marketing มีดังนี้

1.แบรนด์แจกจ่ายลิงก์ Affiliate เฉพาะให้ครีเอเตอร์

 แต่ละครีเอเตอร์ (หรือ Affiliate) จะได้รับลิงก์ Affiliate เฉพาะ หรือ URL ที่ใช้ระบุตัวตนของครีเอเตอร์โดยตรง บางกรณีแบรนด์อาจแนบโค้ดส่วนลดหรือคูปองเข้ากับลิงก์ Affiliate ด้วย

2.ครีเอเตอร์โปรโมตแบรนด์ผ่านลิงก์สินค้า

ครีเอเตอร์นำลิงก์ Affiliate ไปใส่ในช่องทางการตลาดต่างๆ เช่น บัญชีโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ส่วนตัว หรือช่องทางการตลาดอื่น พร้อมกระตุ้นให้ผู้ติดตามซื้อสินค้าผ่านลิงก์ของตน บางคนยังใช้วิธีโฆษณาแบบเสียเงินเพื่อขยายการเข้าถึงและเพิ่มการมีส่วนร่วมกับข้อเสนอ Affiliate

3.แบรนด์จ่ายค่าคอมมิชชันให้ครีเอเตอร์เมื่อมีการซื้อ

 เมื่อลูกค้าใช้ลิงก์ของครีเอเตอร์ในการสั่งซื้อ แบรนด์จะจ่ายค่าคอมมิชชันให้ บางครั้งอาจมีบุคคลที่สามที่เรียกว่า “Affiliate Network” ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์ เพื่อช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเจอกันง่ายขึ้น และทำให้ขั้นตอนการจ่ายค่าคอมมิชชันสะดวกและเป็นระบบ

ระบบของ TikTok Affiliate Marketing เป็นยังไง?

ก็เหมือนกับโปรแกรม Affiliate อื่นๆ  TikTok Affiliate Marketing ช่วยให้ร้านค้าเพิ่มการมองเห็นแบรนด์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้ง่ายขึ้น กลายเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์หลักของหลายๆ แบรนด์บน TikTok

ถึงผู้ใช้ TikTok จะไม่สามารถใส่ลิงก์กดได้ในวิดีโอ แต่ถ้าใช้บัญชี TikTok Business คุณสามารถใส่ลิงก์ Affiliate ไว้ในหน้าโปรไฟล์ได้โดยตรง หรือจะส่งต่อทราฟฟิกไปยังโซเชียลแพลตฟอร์มอื่นที่รองรับลิงก์ได้มากกว่านี้ก็ทำได้

ครีเอเตอร์ยังสามารถอัปโหลดวิดีโอ TikTok ที่ชี้ผู้ชมไปยัง URL เฉพาะ โปรโมตรหัสส่วนลดในคำบรรยายวิดีโอ หรือใช้โฆษณา TikTok แบบจ่ายเงินเพื่อเพิ่มการเข้าถึง กระตุ้นการคลิก และสร้างรายได้ค่าคอมมิชชันได้อีกด้วย

สำหรับผู้ใช้ที่มีผู้ติดตามเกิน 10,000 คน ยังสามารถใส่ลิงก์กดได้ใน TikTok Stories วิดีโอสั้นที่อยู่บนหน้าโปรไฟล์และจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง

วิธีสร้างรายได้จาก Affiliate บน TikTok

ด้วยฐานผู้ใช้ขนาดมหาศาลและอัตราการมีส่วนร่วมเฉลี่ย 2.63% ในปี 2024 TikTok เปิดโอกาสครั้งใหญ่ให้ทั้งครีเอเตอร์และแบรนด์ที่อยากทำ Affiliate บนแพลตฟอร์มนี้ การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการสร้างคอนเทนต์ การเจาะกลุ่มเป้าหมาย และการติดตามผลลัพธ์ สามารถขับเคลื่อนรายได้ให้กับธุรกิจได้ ไม่ว่าคุณจะขายกระเป๋าถือหรือหูฟังก็ตาม

ด้วยระบบอัลกอริทึมที่ช่วยค้นหาคอนเทนต์ใหม่ TikTok ทำให้ Affiliate Marketers มีโอกาสเข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ แบบออร์แกนิกได้ง่ายกว่าที่เคย และในฝั่งโฆษณา TikTok ก็มีโครงสร้างด้าน Ads ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ให้ทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์ได้ลองใช้เช่นกัน ถ้าเข้าใจระบบนิเวศของ TikTok บวกกับการจับสัญญาณพฤติกรรมผู้ใช้และเทรนด์ปัจจุบันให้แม่น ความเสี่ยงจะต่ำ แต่โอกาสเติบโตกลับสูงมาก

การใช้ประโยชน์จากทราฟฟิกออร์แกนิก

ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 1.58 พันล้านคนต่อเดือน และเวลาใช้งานเฉลี่ย 58.4 นาทีต่อวันต่อคน ผลิตภัณฑ์ Affiliate ของคุณสามารถเข้าถึงผู้ชม TikTok ได้กว้างและมีการมีส่วนร่วมสูงมาก

ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นที่พึ่งพาคอนเทนต์จากเครือข่ายผู้ติดตามเป็นหลัก หน้า For You ของ TikTok จะเลือกคอนเทนต์ที่ตรงความสนใจและสร้างความบันเทิงให้ผู้ใช้จากพฤติกรรมการโต้ตอบของพวกเขา

อัลกอริทึมที่ไม่เหมือนใครนี้ทำให้ผู้ใช้มีโอกาสเจอคอนเทนต์น่าสนใจจากอินฟลูเอนเซอร์ใหญ่ที่มีผู้ติดตามนับล้านพอๆ กับวิดีโอจากบัญชีเล็กที่มีผู้ติดตามแค่หลักร้อยหรือหลักพัน การกระจายคอนเทนต์ที่ “เป็นประชาธิปไตย” แบบนี้ทำให้ครีเอเตอร์และแบรนด์ทุกขนาดมีโอกาสใกล้เคียงกัน

แน่นอนว่าศักยภาพของ TikTok ต้องมาพร้อมการทำงานที่จริงจัง วิดีโอแนวตั้งของคุณต้องดึงดูดความสนใจให้ได้ภายในไม่กี่วินาทีแรก และต้องส่งมอบคุณค่าได้เร็วเพื่อกันคนดูเลื่อนผ่าน การใส่เสียงฮิต แฮชแท็ก และชาเลนจ์ต่างๆ ล้วนเป็นวิธีเพิ่มการเข้าถึงแบบออร์แกนิก

เมื่อดึงความสนใจและทราฟฟิกได้แล้ว วิธีต่อยอดเพื่อสร้างยอดขายจาก Affiliate มีดังนี้:

• วางลิงก์ Affiliate อย่างมีกลยุทธ์: ใส่ลิงก์ในคำบรรยายวิดีโอ คอมเมนต์แรก หรือในลิงก์โปรไฟล์ ใช้บริการย่อลิงก์อย่าง Bitly หรือ TinyURL เพื่อติดตามอัตราคลิกและ Conversion จากวิดีโอแต่ละชิ้น
  
• ใช้เครื่องมือ Link-in-bio: อย่าง Linktree หรือ Linkpop ที่ช่วยรวมหลายลิงก์ไว้ในที่เดียว แก้ข้อจำกัดที่ TikTok ให้ใส่ได้เพียง 1 ลิงก์ในโปรไฟล์ และยังนำไปใช้บนโซเชียลอื่นได้ด้วย
  
• แชร์โค้ดโปรโมชันกับผู้ติดตาม: แบรนด์มักมอบโค้ดเฉพาะ (เช่น “Krista20”) ให้ครีเอเตอร์นำไปแชร์ในวิดีโอ TikTok เมื่อมีการสั่งซื้อผ่านโค้ดนี้ ระบบจะบันทึกยอดขายและจ่ายคอมมิชชันตามจริง คุณสามารถใส่โค้ดในวิดีโอได้หลายวิธี เช่น แสดงบนหน้าจอ พูดในเสียงบรรยาย ใส่ในแคปชัน หรือคอมเมนต์
  
• สร้างช่องทางเชื่อมหลายแพลตฟอร์ม (Multiplatform funnel): ครีเอเตอร์สามารถดึงทราฟฟิกจาก TikTok ไปยังเว็บไซต์ส่วนตัว หรือแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Instagram หรือ YouTube เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและมีจุดวางลิงก์ Affiliate หลายจุด เช่น บิวตี้อินฟลูเอนเซอร์อาจใช้ TikTok ทำคลิปสั้น 30 วินาทีเรียกความสนใจ แล้วพาผู้ชมไปดูคลิปเต็มบน YouTube ที่มีลิงก์สินค้า Affiliate ครบ

การใช้โฆษณาแบบจ่ายเงินบน TikTok

TikTok มีรูปแบบโฆษณาหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น In-Feed Ads, TopView, Branded Mission, Spark Ads หรือ TikTok Promote โดยทั้งหมดนี้ใช้ประโยชน์จากระบบ Targeting อันทรงพลังของ TikTok ที่เจาะได้ทั้งตามความสนใจ พฤติกรรม และข้อมูลประชากร

อย่างไรก็ตาม ค่าโฆษณาใน TikTok ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น โดยแคมเปญมักเริ่มต้นที่ราวๆ 18,000 บาท และค่า CPM อยู่ที่ราว 360 บาท ซึ่งสูงกว่า Facebook หรือ Instagram ทำให้แบรนด์เล็กหรือ Affiliate รายย่อยเจอข้อจำกัดด้านงบประมาณ

ทางออกคือ โฟกัสสร้างการเข้าถึงแบบออร์แกนิกก่อน แล้วค่อยนำกำไรกลับมาลงทุนในโฆษณาแบบจ่ายเงิน เริ่มจากตัวเลือกที่ต้นทุนต่ำกว่า เช่น In-Feed Ads หรือจับมือกับนาโนอินฟลูเอนเซอร์ผ่าน Spark Ads ที่ช่วยขยายคอนเทนต์ออร์แกนิกที่ทำผลงานได้ดีอยู่แล้ว

Viviana Viale ที่ปรึกษาด้าน Influencer และ Affiliate อธิบายว่า “ครีเอเตอร์สามารถร่วมมือกับแบรนด์โดยให้ Spark Ad code เพื่ออนุญาตให้แบรนด์นำวิดีโอไปใช้เป็นโฆษณา TikTok ได้ และครีเอเตอร์ก็ยังได้รับค่าคอมมิชชันจากทุกการขายที่เกิดขึ้นผ่าน TikTok Shop อยู่ดี นี่คือโอกาสที่ดีในการทำงานใกล้ชิดกับแบรนด์ เข้าใจเป้าหมาย และสร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับกลยุทธ์การตลาดของพวกเขา”

ใช้เครื่องมือ Analytics ของ TikTok เป็นตัวชี้นำในการสร้างคอนเทนต์ และคอยปรับการยิงเป้าเพื่อเพิ่ม ROI เมื่อเวลาผ่านไป ประสิทธิภาพแคมเปญที่ดีขึ้นจะทำให้การลงโฆษณาแบบจ่ายเงินเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

วิธีเริ่มทำ TikTok Affiliate สำหรับครีเอเตอร์

การเป็นนักการตลาดแบบ Affiliate บน TikTok ถือเป็นวิธีที่ความเสี่ยงต่ำในการเพิ่มช่องทางรายได้ให้กับครีเอเตอร์ และเมื่อระบบเริ่มเดินแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้แบบกึ่งพาสซีฟได้ด้วย ตราบใดที่ลิงก์ของคุณยังใช้งานอยู่ คุณก็ยังมีโอกาสทำเงินจากการคลิกและการสั่งซื้อ

วิธีเริ่มต้นทำ Affiliate Marketing บน TikTok มีดังนี้

1. กำหนด Niche ของคุณ

ขั้นแรกคือการหาว่า Niche หรือกลุ่มตลาดเฉพาะของคุณคืออะไร รวมถึงหัวข้อที่จะทำคอนเทนต์ และความต้องการ–ความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ถ้าคุณมีผู้ติดตามบน TikTok เยอะอยู่แล้ว ก็น่าจะมี Niche ที่ชัดเจนพอสมควร แต่ถ้ายัง ลองคิดดูว่าคุณอยากทำคอนเทนต์แนวไหน และสินค้าหรือบริการประเภทไหนที่เข้ากับความสนใจของคุณได้บ้าง เช่น ถ้าคุณเชี่ยวชาญด้านตกปลาและแคมป์ปิ้ง Niche ที่เหมาะอาจเป็นเรื่องทักษะเอาต์ดอร์และอุปกรณ์กลางแจ้ง

2. สร้างบัญชี TikTok Business

ถ้าอยากใส่ลิงก์ Affiliate ได้เต็มรูปแบบ คุณต้องเปลี่ยนจากบัญชีส่วนตัวมาเป็นบัญชี TikTok Business (สมัครฟรี)

วิธีเปลี่ยนเป็น TikTok Business Account

1. เปิดแอป TikTok แล้วกดที่ Profile
2. เลือก Menu จากนั้นไปที่ Settings and Privacy
3. เลือก Manage account
4. เลือก Switch to Business Account

3. เข้าร่วมโปรแกรม Affiliate

ขั้นต่อไปคือหาว่ามีโปรแกรม Affiliate ใน Niche ของคุณที่ไหนบ้าง คุณสามารถสมัครผ่าน Affiliate Network ศึกษาบริษัทต่างๆ จาก Directory อย่างเช่น Shopify Affiliate Program หรือทักหาแบรนด์โดยตรงเพื่อสอบถามว่ามีโปรแกรม Affiliate หรือไม่

ครีเอเตอร์ยังสามารถรับคอมมิชชันผ่าน TikTok Shop ได้ โดยเข้าร่วม Creator Marketplace อย่างเป็นทางการของแพลตฟอร์ม หรือร่วมมือโดยตรงกับแบรนด์ผ่านฟีเจอร์ Shop

Viviana แนะนำว่า “ใน TikTok Shop การขอตัวอย่างสินค้าจากแบรนด์ทำได้ง่ายมาก ฉันแนะนำให้ส่งข้อความหาแบรนด์ผ่านระบบ Messaging ของ TikTok Shop อธิบายว่าทำไมคุณถึงอยากได้ตัวอย่าง และคุณจะโปรโมตสินค้าอย่างไร”

4.สื่อสารกับแบรนด์อย่างเปิดเผย

เวลาจะเลือกทำงานกับโปรแกรม Affiliate ครีเอเตอร์ควรให้ความสำคัญกับแบรนด์และสินค้าที่สอดคล้องกับคอนเทนต์และคุณค่าของผู้ติดตามจริงๆ เพราะความจริงใจคือกุญแจสร้างความเชื่อใจและความสำเร็จระยะยาว

Viviana บอกว่า “บางครั้งครีเอเตอร์อาจไม่ชอบสินค้าชิ้นนั้น และไม่อยากทำวิดีโอเกี่ยวกับมัน ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันแนะนำให้ติดต่อแบรนด์และให้ฟีดแบ็กตรงๆ ดีกว่าหายไปเฉยๆ หรือแท็กสินค้าในไลฟ์โดยที่ไม่พูดถึงจริงๆ ฟังดูเหมือนเรื่องธรรมดา แต่ครีเอเตอร์ที่สื่อสารกับแบรนด์อย่างเปิดเผยนั้นมีค่านะ ถ้าคุณอยู่ใน 1% นี้ คุณคือคนที่เจ๋งมากๆ เลย!”

5.ใส่ลิงก์ Affiliate ใน Bio ของ TikTok

พอคุณเลือกโปรแกรม Affiliate ได้แล้ว ก็ถึงเวลานำลิงก์ไปเผยแพร่ วิธีใส่ลิงก์ใน Bio คือกด Edit profile แล้ววางลิงก์ที่ต้องการ ถ้ามีหลายลิงก์ก็ทำ Landing Page ง่ายๆ ด้วยเครื่องมือฟรีอย่าง LinkPop เพื่อรวมลิงก์หลายๆ อันไว้ในที่เดียว

6.สร้างคอนเทนต์ TikTok ที่มีคุณภาพ

อยากเพิ่มยอดขาย? คอนเทนต์ต้องดึงดูดและน่าสนใจ วิดีโอที่คุณทำควรโปรโมตสินค้า Affiliate และชี้ให้ผู้ชมไปที่ลิงก์เฉพาะของคุณ ใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มการเข้าถึงแบบออร์แกนิก หรือหากอยากขยายวงกว้างก็ลงทุนโฆษณาแบบจ่ายเงินได้เช่นกัน

Viviana แนะนำว่า “ครีเอเตอร์ควรโปรโมตสินค้าที่ใช้จริงและเชื่อมั่นจริงๆ เพราะความจริงใจคือสิ่งที่ผู้ชมสัมผัสได้ และช่วยเปลี่ยนเป็นยอดขาย ครีเอเตอร์สามารถสร้างสรรค์ได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นคลิปสอน (tutorial) คลิปแกะกล่อง รีวิว หรือคอนเทนต์สายสวยงาม (aesthetic content) ก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือการโชว์ข้อดีและจุดเด่นของสินค้าในแบบที่สนุกและเข้าถึงง่าย”

กลุ่มผู้ใช้รุ่นใหม่มักไม่ชอบโฆษณาที่ดูแข็งจนเกินไป ดังนั้น “ความจริงใจ” จึงสำคัญที่สุดบน TikTok Viviana เสริมว่า
“เลี่ยงการใช้คำพูดอย่าง ‘ฉันได้รับสินค้านี้จาก TikTok Shop’ เพราะมันทำให้ครีเอเตอร์ดูไม่จริงใจ และลดคุณค่าของแบรนด์ที่โปรโมตด้วย”

ตัวอย่าง Affiliate บน TikTok

Affiliate TikTok เป็นวิธีที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้ชมใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้ มาดูตัวอย่างจริงกัน:

LTK Makeup by Shayla

ครีเอเตอร์ชื่อดังบน TikTok อย่าง MakeupShayla ใช้ LTK เพื่อสร้างรายได้จากคอนเทนต์แฟชั่นและบิวตี้ LTK เป็นแพลตฟอร์ม Affiliate ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับไลฟ์สไตล์อินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์

ผ่าน LTK Shayla จัดทำ “shoppable collections” รวมลุคแฟชั่นและบิวตี้โปรดของเธอ ให้ผู้ติดตามกดซื้อสินค้าแต่ละชิ้นตามคำแนะนำได้โดยตรง เมื่อผู้ชมซื้อผ่านลิงก์ LTK ของเธอ Shayla ก็จะได้รับค่าคอมมิชชันต่อการขายแต่ละครั้ง กลายเป็นการสร้างรายได้จากอิทธิพลด้านสไตล์ของเธอ

LTK ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมครีเอเตอร์อย่าง Shayla เข้ากับแบรนด์ ช่วยให้ครีเอเตอร์รับค่าคอมมิชชัน และช่วยแบรนด์ทำการตลาดและสร้างยอดขายผ่านอินฟลูเอนเซอร์ หน้า LTK ของ Shayla สามารถเข้าถึงได้ผ่านลิงก์ Linktree ที่เธอใส่ไว้ใน Bio ของ TikTok

Good Protein

แบรนด์จากแคนาดาอย่าง Good Protein ใช้กลยุทธ์ Affiliate กับอินฟลูเอนเซอร์ TikTok เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านโปรตีนซูเปอร์ฟู้ดจากพืชและวัตถุดิบธรรมชาติ แบรนด์เลือกทำงานกับครีเอเตอร์ในสายสุขภาพและฟิตเนส ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกลุ่มผู้ติดตามสนใจโภชนาการและการดูแลสุขภาพอยู่แล้ว

หนึ่งในความร่วมมือคือกับ Jujeats ไมโครอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 3,000 คน ซึ่งเธอได้นำผลิตภัณฑ์ของ Good Protein มาทำคอนเทนต์วิดีโอเมนูของว่างสุขภาพที่ทำง่ายและพกพาสะดวก พร้อมมอบโค้ดส่วนลดพิเศษ “JUJEATS” สำหรับลด 30% ให้กับผู้ติดตาม โดยใส่ไว้ชัดเจนในคำบรรยายวิดีโอ โค้ดนี้ไม่เพียงกระตุ้นการซื้อ แต่ยังช่วยให้ Good Protein ติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญได้ด้วย

Pinky and Kamal

แบรนด์เสื้อผ้าแอคทีฟ โยคะ และไลฟ์สไตล์จากออสเตรเลียอย่าง Pinky and Kamal ได้ร่วมมือกับครีเอเตอร์ TikTok Dana Vaughan ที่มีผู้ติดตามเกือบ 25,000 คน ในวิดีโอ TikTok ความยาวไม่ถึง 60 วินาที Dana รีวิวกางเกงเลกกิ้งจากคอลเลกชัน Synergy พร้อมบอกว่านี่คือเลกกิ้งที่เธอชอบที่สุดที่เคยใส่มา

ในความร่วมมือนี้ Dana ยังมอบโค้ดส่วนลดพิเศษ “DANA15” ให้กับผู้ติดตามเพื่อใช้ซื้อสินค้าของ Pinky and Kamal ผ่านลิงก์ Affiliate อีกด้วย

แนวทางการทำ TikTok Affiliate สำหรับร้านค้า 

ต่างจากการทำ Creator Marketing ประเภทอื่น การเปิดโปรแกรม TikTok Affiliate ของธุรกิจเองไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนล่วงหน้าสูง สิ่งที่ผู้ขายต้องทำคือกำหนดโปรแกรม จัดการโปรโมชัน และอาจเข้าหาครีเอเตอร์โดยตรง แต่ความเสี่ยงด้านการเงินต่ำมาก เพราะหากไม่มีการสร้างยอดขาย ก็ไม่ต้องมีการจ่ายค่าคอมมิชชัน

ขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นมีดังนี้

1. กำหนด Affiliate Offer

เลือกสินค้าที่จะใช้เป็น Affiliate Product และคำนวณอัตราค่าคอมมิชชันที่เหมาะสมต่อการจ่ายให้ครีเอเตอร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาร์จิ้นและกลยุทธ์การตลาด คุณอาจเปิด Affiliate ได้ทั้งร้าน หรือเลือกเฉพาะสินค้าทำกำไรสูงและสินค้าที่ต้องการผลักดันเป็นพิเศษ

2. ตั้งค่าโปรแกรม Affiliate

มี 2 แนวทางหลัก

• จัดการเองผ่านแอปหรือซอฟต์แวร์ Affiliate Marketing
• เข้าร่วม Affiliate Network ซึ่งเป็นบุคคลที่สามที่เชื่อมต่อแบรนด์และครีเอเตอร์ การใช้ Network ช่วยลดภาระการจัดการ แต่มีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าตั้งระบบและการหักเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย

Viviana อธิบายว่า “สำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มทำ Affiliate การเข้าร่วม Affiliate Network หรือผู้ให้บริการบุคคลที่สามถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะเปิดโอกาสให้เข้าถึงเครือข่ายครีเอเตอร์ที่กว้างขึ้น พร้อมระบบจัดการที่ครบวงจรตั้งแต่การติดตามผลไปจนถึงการจ่ายค่าคอมมิชชัน”

สำหรับธุรกิจที่มีประสบการณ์มากกว่า แนวทาง Hybrid อาจเหมาะสมกว่า “ใช้ Network ในช่วงเริ่มต้นเพื่อขยายอย่างรวดเร็ว และพัฒนาโปรแกรมของตนเองในระยะถัดไปเพื่อควบคุมและปรับแต่งได้มากขึ้น รวมถึงประหยัดต้นทุนในระยะยาว” Viviana กล่าว

ก่อนตัดสินใจ ควรประเมินว่าธุรกิจของคุณสามารถจัดสรรเวลาและทรัพยากรเพื่อดูแลโปรแกรม Affiliate เองได้หรือไม่ หากเลือกใช้ Network ให้คำนวณยอดขายที่ต้องทำได้ต่อเดือนเพื่อคืนทุน และประเมินโอกาสการบรรลุเป้าหมายนั้นอย่างรอบคอบ

3. ดึงพาร์ทเนอร์ Affiliate เข้าร่วม

ถ้าคุณเลือกเข้าร่วม Affiliate Network คุณสามารถหาพาร์ทเนอร์ได้โดยตรงจากแพลตฟอร์ม แต่ถ้าคุณตั้งโปรแกรม Affiliate ของตัวเอง อาจต้องลงแรงเพิ่มเพื่อหาพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสม

คุณสามารถโปรโมตโปรแกรมนี้ผ่านเว็บไซต์บริษัท โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย หรือส่งข้อความตรงไปหาครีเอเตอร์บน TikTok โดยตรง มองหาครีเอเตอร์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ มีภาพลักษณ์แบรนด์ที่สอดคล้องกัน และทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า/บริการ Affiliate ของคุณอย่างน่าสนใจ

Viviana แนะนำว่าควรประเมินภาพรวมมากกว่าดูแค่ตัวเลขผู้ติดตาม “มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา อัตราการมีส่วนร่วม (engagement rate) และยอดวิวเฉลี่ยของวิดีโอมีความสำคัญกว่าจำนวนผู้ติดตาม TikTok Shop ยังมีอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่น่าสนใจคือ Video GPM (gross merchandise value ต่อ 1,000 วิว) ซึ่งบอกศักยภาพการสร้างยอดขายของครีเอเตอร์ได้ดีมาก”

ข้อดีและข้อเสียของ TikTok Affiliate 

TikTok มีทั้งจุดแข็งและความท้าทายสำหรับแบรนด์และนักการตลาดสาย Affiliate การเติบโตอย่างรวดเร็วและฐานผู้ใช้ที่มีการมีส่วนร่วมสูงทำให้เกิดโอกาสใหม่มหาศาล แต่ก็มาพร้อมอุปสรรคเฉพาะเช่นกัน

ลองพิจารณาข้อดีและข้อเสียเหล่านี้ก่อนวางกลยุทธ์ TikTok Affiliate ของคุณ

ข้อดีของ TikTok Affiliate 

• การเข้าถึงด้วยอัลกอริทึม: ระบบค้นหาคอนเทนต์ของ TikTok เอื้อให้เติบโตแบบออร์แกนิกได้มาก แม้จะยังไม่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ทำให้ Affiliate หน้าใหม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เร็วขึ้นหากสร้างคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ
• อัตราการมีส่วนร่วมสูง: TikTok มี Engagement Rate สูงกว่ามาตรฐานในอุตสาหกรรม ผู้ใช้ใช้เวลาเฉลี่ย 58.4 นาทีต่อวันบนแอป เพิ่มโอกาสให้ลิงก์ Affiliate ถูกคลิกและเปลี่ยนเป็นยอดขายได้มากขึ้น
• แพลตฟอร์มวิดีโอเป็นหลัก: ฟอร์แมตวิดีโอสั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสาธิตและรีวิวสินค้า เช่น คลิปแกะกล่องสมาร์ทวอทช์ล่าสุด การโชว์ฟีเจอร์เครื่องม้วนผมใน 15 วินาที หรือการเปลี่ยนลุค Before-After ด้วยเมกอัพอย่างชัดเจน
• ฐานผู้ใช้รุ่นใหม่ที่พร้อมซื้อ: ผู้ใช้ TikTok ส่วนใหญ่คือ Gen Z และมิลเลนเนียล ซึ่งกลุ่มนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเปิดใจลองสินค้าที่ใหม่กว่า และมักเชื่อคำแนะนำจากอินฟลูเอนเซอร์มากกว่าเจนอื่นๆ

ข้อเสียของ TikTok Affiliate 

• การวางลิงก์มีข้อจำกัด: ต่างจาก YouTube หรือ Instagram TikTok อนุญาตให้ใส่ลิงก์กดได้เพียง 1 ลิงก์ใน Bio ของผู้ใช้ และส่วนใหญ่ไม่สามารถใส่ลิงก์ในวิดีโอได้โดยตรง ข้อจำกัดนี้ทำให้การพาผู้ชมไปยังสินค้าหรือหน้า Affiliate เฉพาะเจาะจงทำได้ยากขึ้น
• อายุคอนเทนต์สั้น: ความเร็วของแพลตฟอร์มทำให้คอนเทนต์ตกกระแสได้เร็ว ส่งผลให้ครีเอเตอร์และแบรนด์ต้องผลิตคอนเทนต์ใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความน่าสนใจ ซึ่งกินเวลามากและอาจลดคุณค่าระยะยาวของวิดีโอแต่ละชิ้น
• ความผันผวนของแพลตฟอร์ม: เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มที่มั่นคงกว่า TikTok ยังถือว่าอยู่ในช่วงทดลองและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้ใช้ต้องคอยปรับตัวตามฟีเจอร์ เทรนด์ และอัลกอริทึมใหม่ๆ ทำให้ยากที่จะรักษาผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ สิ่งที่ใช้ได้ผลวันนี้อาจใช้ไม่ได้ผลในวันพรุ่งนี้
• การแข่งขันสูงใน Niche ยอดนิยม: หลายหมวดสินค้า โดยเฉพาะแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และบิวตี้ เริ่มมีคอนเทนต์ Affiliate ล้นตลาด การโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งจำนวนมากจึงเป็นเรื่องท้าทาย หากไม่มีสินค้าที่แตกต่างจริงๆ และกลยุทธ์คอนเทนต์ที่คิดมาอย่างดี