ยอดขายอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นทุกปีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยปัจจุบันผู้บริโภคใช้จ่ายออนไลน์มากกว่า 5.7 ล้านล้านบาท จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจต่างๆ จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องการส่วนแบ่งรายได้นี้ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าหมวดสินค้าใดเป็นที่ต้องการ
นี่คือหมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ยอดนิยม แบ่งตามรายได้สูงสุดทั่วโลกและในไทย ใช้ข้อมูลนี้เพื่อช่วยขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ
ทำความเข้าใจกับหมวดสินค้าขายดีในออนไลน์
เพื่อทำความเข้าใจกับหมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ยอดนิยม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาข้อมูลสองประการ ได้แก่ รายได้ของหมวดนั้นๆ และความนิยม
หมวดสินค้าอีคอมเมิร์ซที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอาจเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด แม้ว่าจะยังไม่สามารถสร้างรายได้สูงสุดได้ ในทางกลับกัน สินค้าที่ทำรายได้สูงของหมวดนั้นๆ อาจมีความนิยมที่น้อยกว่า ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจ
การจับตาดูสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมแต่ละรายการก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจเช่นกัน สินค้าที่โดดเด่นสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับหมวดสินค้า ส่งผลให้ความสนใจในสินค้าประเภทเดียวกันเพิ่มสูงขึ้น
ต่อไป เรามาดูหมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ยอดนิยม ทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย รวมถึงหมวดที่มีการเปลี่ยนแปลงรายได้อย่างมากในปีที่ผ่านมา
หมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ทั่วโลก

รายได้อีคอมเมิร์ซทั่วโลก Statista
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ด้วยการคาดการณ์การใช้จ่ายที่ 922.5 ล้านล้านบาท อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นส่วนสำคัญของยอดขายอีคอมเมิร์ซทั่วโลก จุดแข็งของสินค้าหมวดนี้อยู่ที่กลุ่มสินค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ ไปจนถึงสินค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น โดรนและอุปกรณ์สมาร์ทโฮม
แฟชั่นและเครื่องแต่งกาย
แฟชั่นและเครื่องแต่งกายติดอันดับสองในหมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ยอดนิยม ในปีนี้ คาดการณ์ว่าผู้บริโภคจะใช้จ่าย 760 ล้านล้านบาทกับสินค้าแฟชั่น การเติบโตของธุรกิจดรอปชิปปิ้งแฟชั่นทำให้ผู้ประกอบการสามารถเปิดร้านเสื้อผ้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำก็กำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการร่วมมือกัน
อาหาร
อาหารเป็นหมวดสินค้าขายดีที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายที่คาดการณ์ไว้สูงถึง 460.1 ล้านล้านบาท ความสะดวกสบายของการซื้ออาหารออนไลน์ ประกอบกับการเติบโตของแอปพลิเคชันจัดส่ง ได้เปลี่ยนแปลงวิถีการช้อปปิ้งอาหารของผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง
เครื่องดื่ม
เครื่องดื่มติดอันดับสี่ในหมวดสินค้าขายดียอดนิยม โดยมีรายได้คาดการณ์ไว้ที่ 248.7 ล้านล้านบาท ความนิยมของเบียร์คราฟต์ ชา และ กาแฟพรีเมียม แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของผู้บริโภคที่มองหาเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพสูง
สินค้า DIY และฮาร์ดแวร์
สินค้า DIY และฮาร์ดแวร์ก็เป็นสินค้าขายดีในออนไลน์เช่นกัน คาดการณ์ว่าผู้บริโภคจะใช้จ่าย 220.2 ล้านล้านบาท ไปกับสินค้าที่ใช้ปรับปรุงบ้าน ความสะดวกสบายในการเปรียบเทียบสินค้า อ่านรีวิว และการบริการจัดส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญของการช้อปปิ้งออนไลน์ในหมวดหมู่นี้
เฟอร์นิเจอร์
เฟอร์นิเจอร์เป็นหมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ในอันดับที่ใกล้เคียงกับ DIY และฮาร์ดแวร์ โดยมีรายได้คาดการณ์ไว้ที่ 220.1 ล้านล้านบาท การเติบโตของแบรนด์ที่ขายตรงถึงผู้บริโภคยังคงสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง การตัดพ่อค้าคนกลางออกไปทำให้บริษัทผลิตที่นอน ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน และนักออกแบบสินค้าหรูหราสามารถนำเสนอสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่ต่ำกว่า ทำให้การซื้อเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภค
สื่อ
สื่ออยู่ในอันดับที่เจ็ดในรายการ โดยมีรายได้คาดการณ์ที่ 193.9 ล้านล้านบาท
สินค้าความงามและผสินค้าดูแลร่างกาย
สินค้าความงามและการดูแลร่างกายคาดว่าจะสร้างรายได้ 169.6 ล้านล้านบาท แบรนด์ที่สามารถนำเสนอส่วนผสมใหม่ ราคาที่แตกต่าง หรือ สินค้าดูแลผิวเฉพาะทาง มักจะประสบความสำเร็จในหมวดนี้
ยาสูบ
คาดการณ์ว่ายาสูบจะสร้างรายได้ 116.6 ล้านล้านบาทในปีนี้ การมีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากบุหรี่ไฟฟ้า เช่น บุหรี่ไฟฟ้าและเวปส์ แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมนี้กำลังปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อความชอบของผู้บริโภคออนไลน์และ ความท้าทายด้านกฎระเบียบ
ของเล่นและสินค้างานอดิเรก
หมวดของเล่นและสินค่างานอดิเรกอยู่ในอันดับสุดท้ายของหมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ โดยมีรายได้คาดการณ์อยู่ที่ 8.98 ล้านล้านบาท ความต้องการของเล่นและงานอดิเรกออนไลน์ได้รับการสนับสนุนจากของเล่นเพื่อการศึกษา สินค้าสะสม และกิจกรรมงานฝีมือ
หมวดสินค้าขายดีในไทย
อีคอมเมิร์ซประเทศไทย Statista Market Forecast
หมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ในประเทศไทยสะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่มองหาแฟชั่น เทคโนโลยี และสินค้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ โดยตลาดอีคอมเมิร์ซไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 4.2 ล้านล้านบาท และยังเติบโตต่อเนื่องทุกปี
- แฟชั่นและของใช้ส่วนตัว เป็นหมวดสินค้าขายดีอันดับหนึ่ง คิดเป็นสัดส่วนราว 25–30 % ของตลาด หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตามมาในอันดับสอง มีสัดส่วนราว 20 % ของตลาด คิดเป็นประมาณ 840,000 ล้านบาท
- อาหารและเครื่องดื่ม อยู่ในอันดับสาม สร้างรายได้ราว 750,000 ล้านบาท
- สินค้าเพื่อความงามและการดูแลร่างกาย ครองส่วนแบ่งประมาณ 420,000 ล้านบาท
- ของตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น และสินค้างานอดิเรก รวมกันมีสัดส่วนราว 10 % ของตลาด หรือประมาณ 400,000 ล้านบาท
- สินค้าหรูหรา ยังคงเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่มีแนวโน้มเติบโตจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ของผู้บริโภคกำลังซื้อสูง
หมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
เมื่อพิจารณาหมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ในแง่ของความนิยม จะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย เมื่อจัดอันดับตามการเปลี่ยนแปลงรายได้ต่อปี แทนที่จะเป็นรายได้รวม 5 หมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ทั่วโลกที่มีได้รับความนิยมสูงสุดมีดังนี้
อาหาร
หมวดหมู่อาหารมีการเติบโตอย่างมากถึง 51.6% ในปี 2563 ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการเปลี่ยนมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์ในช่วงการระบาดของโควิด-19 แม้ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงในปีต่อๆ มา แต่อาหารยังคงเป็นหมวดหมู่ที่ได้รับความนิยม โดยคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตในปัจจุบันจะอยู่ที่ 24.1%
สิ่งของจำเป็นในครัวเรือน
ในปี 2563 สินค้าจำเป็นในครัวเรือนมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ 39.6% ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการสินค้าจำเป็นที่เพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ คาดว่าอัตราการเติบโตนี้จะคงที่ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 22.2%
เครื่องดื่ม
คาดว่ายอดขายเครื่องดื่มออนไลน์จะเติบโต 18.9%
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
หลังจากรายได้ลดลงในปี 2565 รายได้จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ก็เติบโตขึ้นทุกปี และคาดการณ์ว่าในปี 2567 จะเติบโต 18.1%
เฟอร์นิเจอร์
คาดว่าหมวดหมู่เฟอร์นิเจอร์จะเติบโต 17% ในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
วิธีใช้เทรนด์การช้อปปิ้งออนไลน์สำหรับธุรกิจของคุณ
ธุรกิจออนไลน์สามารถรักษาความทันสมัยได้ด้วยการติดตามเทรนด์ยอดนิยม การปรับเปลี่ยนแคตตาล็อกสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภคอาจช่วยให้คุณประหยัดเงินและสร้างการจดจำรับรู้แบรนด์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
วิธีใช้ประโยชน์จากข้อมูลความนิยมของสินค้าให้คุ้มค่าที่สุด
ทดลองกับภาคส่วนที่กำลังเติบโต
ธุรกิจหลายแห่งประสบความสำเร็จด้วยการปรับแต่งร้านค้าออนไลน์ให้เหมาะกับหมวดหมู่สินค้าเฉพาะ ซึ่งช่วยให้สามารถนำเสนอบริการระดับผู้เชี่ยวชาญให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ ในขณะเดียวกัน ธุรกิจก็อาจถูกจำกัดด้วยขนาดของกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
วิธีหนึ่งในการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมมากกว่ากลุ่มสินค้าเฉพาะกลุ่ม คือการนำเสนอสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมผ่านช่องทางการขายเพิ่มเติม เช่นเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ ตลาดออนไลน์อย่าง Etsy และ eBay มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อธุรกิจต้องการทดลองกับภาคส่วนที่กำลังเติบโตโดยไม่กระทบต่อการปรับแต่งแบรนด์หรือเว็บไซต์
ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ขึ้นชื่อเรื่องการคัดสรรสินค้าหัตถกรรม อาจต้องการขยายธุรกิจโดยนำเสนอสินค้าแฮนด์เมดหลากหลายประเภทที่สร้างสรรค์โดยชุมชนท้องถิ่น การลงสินค้าเหล่านี้บนแพลตฟอร์มอย่าง Etsy จะช่วยให้ธุรกิจสามารถทดสอบตลาดใหม่ได้โดยไม่ต้องปรับปรุงเว็บไซต์
การทำความเข้าใจความต้องการของตลาดผ่านการวิจัยสินค้าก็มีความสำคัญอย่างยิ่งเช่นกันสำหรับธุรกิจในการปรับกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าของตน ตัวอย่างเช่น ธุรกิจอาจใช้เครื่องมืออย่าง Google Trends เพื่อค้นหาสินค้าฟิตเนสภายในบ้านยอดนิยม จากนั้นจึงจัดหาหรือสร้างสินค้าที่คล้ายคลึงกันเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคส่วนที่กำลังเติบโตนี้
ปรับแต่งประสบการณ์การช็อปปิ้ง
การปรับแต่งประสบการณ์การช้อปปิ้งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการดึงดูดความสนใจเมื่อต้องแข่งขันกันในหมวดหมู่สินค้าชั้นนำ ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ข้อมูลผู้บริโภคเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า แล้วจึงปรับแต่งประสบการณ์การช้อปปิ้งให้ตรงกับความต้องการ
การตลาดและออกแบบร้านค้าเฉพาะบุคคลสามารถทำได้ผ่านแคมเปญอีเมลที่ที่กำหนดเป้าหมายหรือการแนะนำสินค้าเฉพาะบุคคลโดยอิงจากประวัติการเรียกดูและการซื้อของลูกค้า โปรแกรมสะสมคะแนนยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำอีกด้วย
แม้แต่การเรียกลูกค้าก็สามารถยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งและสร้างความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับลูกค้าได้
โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อเทรนด์การช้อปปิ้งออนไลน์
โซเชียลมีเดียไม่ได้มีอิทธิพลต่อหมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ยอดนิยมเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นช่องทางการขายที่สำคัญอีกด้วย คาดว่าตั้งแต่ปี 2568 ยอดขายผ่านโซเชียลมีเดียจะคิดเป็นสัดส่วนอย่างน้อย 20% ของยอดขายอีคอมเมิร์ซทั้งหมด
เมื่อกลุ่ม Gen Z และ Gen Alpha มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ธุรกิจต่างๆ กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเหล่านี้บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งหลายคนใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งรวมถึงการนำการขายผ่านโซเชียลมีเดีย การเผยแพร่โพสต์เกี่ยวกับสินค้าและการตั้งหน้าร้านบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมาใช้
💡 Shopify ช่วยให้คุณเชื่อมต่อร้านค้าของคุณกับโซเชียลมีเดียและขายบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหมวดสินค้าขายดีในออนไลน์
หมวดสินค้าขายดีในออนไลน์ใดที่มีการเติบโตสูงสุด
จากการคาดการณ์ล่าสุด คาดว่าหมวดหมู่สินค้าอาหารจะมีการเติบโตสูงสุด โดยคาดว่าจะเติบโต 24.1%
สินค้าขายดีในออนไลน์หมวดไหนที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมากที่สุด
หมวดหมู่สินค้าอาหารมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดสี่ปีที่ผ่านมา โดยเติบโต 51.6% ในปี 2563, 39.7% ในปี 2564 13.3% ในปี 2565 16.0% ในปี 2566 และคาดการณ์ว่าจะเติบโต 24.1% ในปี 2567
สินค้าออนไลน์ขายดีหมวดไหนที่มีการเติบโตน้อยที่สุด
คาดการณ์ว่าสินค้าประเภทสื่อจะมีการเติบโตน้อยที่สุด โดยเติบโตเพียง 6.1%


